หน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ของอินโดนีเซียหรือรู้จักกันดีในชื่อ Bappebti กำลังเตรียมพิจารณาเก็บภาษีจากกิจกรรมการซื้อขาย cryptocurrency บนกระดานแลกเปลี่ยนทั้งหมดที่มีการจดทะเบียนในประเทศ
ปัจจุบันมีกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตทั้งหมด 13 แห่งที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Bappebti และรายงานที่ได้จากแพลตฟอร์มเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการคำนวณภาษีให้โดยอัตโนมัติ หากผ่านร่างกฎหมาย อ้างอิงตามรายงานของ Phnom Penh Post
“ขณะนี้การเสนอร่างกฎหมายกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาโดย Bappebti และหากเสร็จสิ้นกระบวนการนี้ เราจะติดต่อประสานงานกับสำนักงานคลังของอินโดนีเซีย” นาย Sidharta Utama หัวหน้า Bappebti กล่าว
ดูเหมือนว่าในช่วงหกเดือนที่ผ่านมารัฐบาลอินโดนีเซียนั้นจะเริ่มตื่นตัวในเรื่องกฎระเบียบคริปโตมากขึ้น เนื่องจาก Bitcoin และตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนธันวาคม 2020 Bappebti ได้ออกกฎข้อบังคับใหม่ โดยยอมรับว่าสกุลเงินดิจิทัลทั้ง 229 สกุลเงินได้ถูกจัดประเภทให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สามารถซื้อขายได้ถูกต้องตามกฎหมาย และต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ Bappebti ได้เปิดเผยรายชื่อแพลตฟอร์มกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตทั้งหมด 13 แห่งที่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในปี 2014 และในปี 2017 อินโดนีเซียได้ออกมาประกาศเตือนประชาชนเกี่ยวกับใช้ cryptocurrencies เป็นวิธีการชำระเงินและได้มีการออกกฎหมายที่เรียกร้องให้บริษัท fintech ภายในประเทศจดลงทะเบียนกับธนาคารแห่งอินโดนีเซียเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ใช้ cryptocurrencies ในระบบการชำระเงินของตน
นาย Teguh Kurniawan ประธานสมาคมนักเทรดคริปโตของอินโดนีเซียกล่าวว่า กลุ่มที่เขาเป็นตัวแทนอยู่ได้เสนออัตราการเก็บภาษีอยู่ที่ 0.05% และเขาเสริมด้วยว่าอัตราภาษีเรียกเก็บสูงเกินไปนั้นอาจทำผู้คนหันไปเลือกใช้ช่องทางที่ผิดกฎหมายสำหรับการลงทุน cryptocurrencies แทน
“จนถึงปัจจุบันยังไม่มีข้อเสนอใดที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บภาษีคริปโต และเราหวังว่าอัตราภาษีใหม่นั้นจะไม่สูงจนเกินไป เพราะเราเกรงว่านักลงทุนอาจหันไปลงทุนคริปโตผ่านช่องทางที่ผิดกฎหมาย ซึ่งจะเป็นอันตรายกับพวกเขา” นาย Kurniawan กล่าว