เป็นที่ทราบกันดีว่าวันที่ 26 เมษายน 2011 นั้นเป็นวันที่ Satoshi Nakamoto ผู้สร้างนามแฝงของ Bitcoin ได้หายไปจากชุมชน cryptocurrency อย่างลึกลับและไม่มีใครเคยได้เห็นเขาอีกเลยนับตั้งแต่นั้น
โดยก่อนที่ Satoshi Nakamoto จะหายตัวไป เขาได้ทิ้งข้อความสุดท้ายไว้เมื่อทศวรรษที่แล้ว ว่า : “ผมได้เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแล้ว”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Bitcoin (BTC) ได้รับการพัฒนาจากโครงการลึกลับที่คลุมเครือไปสู่สินทรัพย์ทางการเงินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ที่ดึงดูดความสนใจจากรัฐบาล สถาบันการเงิน บริษัท และกลุ่มนักลงทุน ซึ่งแม้จะมีทฤษฎีที่เป็นไปได้มากมาย แต่ปัจจุบันตัวตนของ Nakamoto ก็ยังคงเป็นปริศนาและจำนวนเงิน 1 ล้าน BTC ในกระเป๋าเงินของเขาก็ยังคงไม่เคลื่อนไหวใด ๆ
ด้วยราคา Bitcoin ที่ถูกซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 54,000 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ทั้งหมดของ Nakamoto จะมีมูลค่าอยู่ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์ และเงินจำนวนนี้จะทำให้ Nakamoto กลายบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก หากเขาปรากฏตัวแล้วขายมัน
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาย Dustin D. Trammell หนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin ยุคแรก ๆ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เขาตั้งข้อสังเกตว่า Nakamoto นั้นไม่น่าจะทำงานกับโปรโตคอล e-cash มาก่อนที่จะเจอกับ Bitcoin เนื่องจากความ “อคติ” สำหรับการนำเอาเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในช่วงเวลานั้น
“ดูเหมือนว่า Satoshi จะไม่ได้พยายามที่จะแก้ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นการแก้ปัญหาทางสังคมมากกว่าเกี่ยวกับระบบการเงินแบบดั้งเดิม ในช่วงเวลานั้นเขาได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ดังนั้นประเด็นทางปรัชญาบางประเด็นจึงอาจถูกมองข้ามไป”
ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า Nakamoto จะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งหรือไม่ แต่ชุมชนคริปโตได้ตกลงกันแล้วว่าพวกเขาจะไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ก่อตั้ง ซึ่งผลงานของ Nakamoto ได้ทำให้เกิดการนำเอาเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้กันอย่างกว้างขวางภายใต้กฏเกณฑ์ใหม่ของการกระจายอำนาจ