ทางการสหรัฐฯ ได้เข้าจับกุมชายคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์ Bitcoin Fog หรือบริการฟอกเหรียญ Bitcoin ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ผ่านทางเว็บไซต์ Darknet ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชนมานานนับ 10 ปี
อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้ออกคำเตือนกับผู้ใช้บริการบล็อกเชนที่ผิดกฎหมายด้วยว่า ทุกสิ่งที่คุณทำในวันนี้อาจกลับมาหลอกหลอนคุณได้เนื่องจาก “กิจกรรมเหล่านี้จะยังคงอยู่ในบัญชีแยกประเภทตลอดไป”
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ Bitcoin Fog ได้ช่วยผู้ใช้คริปโตปกปิดแหล่งที่มาของธุรกรรมปลายทาง อย่างไรก็ตามกรมสรรพากรได้เข้าจับกุมนาย Roman Sterlingov ลูกครึ่งรัสเซีย – สวีเดน ในข้อหาที่มีการฟอกเงิน Bitcoin จำนวนมากกว่า 1.2 ล้าน BTC หรือคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 336 ล้านดอลลาร์ในช่วงที่เขาทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์
Sterlingov ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 27 เมษายนในลอสแองเจลิส โดยกรมสรรพากรประเมินว่าเขาได้รับค่าคอมมิชชั่นระหว่าง 2% ถึง 2.5% สำหรับให้บริการฟอกเงิน ในช่วงเวลาของการทำธุรกรรมแต่ละครั้งซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น แต่มันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณในวันนี้
เจ้าหน้าที่ประเมินว่าอย่างน้อย 23% ของ Bitcoin ที่กระทำผ่านบริการเหล่านี้จะถูกโอนไปยังตลาดเครือข่ายยาเสพติดบนเว็บไซต์ Darknet อย่างเช่น Silk Road
การจับกุม Sterlingov ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริการฟอกเงินย้อนหลังไปจนถึงปี 2011 โดยใช้เครือข่าย Bitcoin blockchain เพื่อระบุหาตัวตนของเขา
Sterlingov ก่อตั้งเว็บไซต์ Bitcoin Fog ขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2011 ภายใต้นามแฝงในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งมีความหมายว่า “สวัสดีปีใหม่” โดย Bitcoin Fog นั้นจะช่วยปิดกั้นความเป็นไปได้ “สำหรับการค้นหาข้อมูลชำระเงินและทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างการฝากเงินและถอนเงินของผู้ใช้ได้”
ในปี 2019 ตัวแทนกรมสรรพากรที่ไม่เปิดเผยตัวตนได้แฝงตัวเข้าใช้บริการของ Sterlingov ผ่านทางแพลตฟอร์ม โดยอ้างว่าพวกเขาต้องการลบล้างผลกำไรได้มาจากการเทรด และด้วยความดีใจ ธุรกรรมของพวกเขาได้รับการดำเนินการจาก Sterlingov โดยที่ไม่มีการตอบกลับ
กระบวนการทางด้านกฎหมายสามารถระบุได้ว่า Sterlingov มีการมีชำระเงินสำหรับค่าเซิร์ฟเวอร์ Bitcoin Fog ด้วยสกุลเงินดิจิตอลที่มีชื่อว่า Liberty Reserve ซึ่งการทำธุรกรรมในครั้งนี้ได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้เจ้าหน้าสามารถค้นหาร่องรอยการทำธุรกรรมของ Sterlingov ได้และพบว่าเขาได้มีการซื้อเหรียญ Liberty Reserve มาจากเว็บเทรด Mt GOX
หลังจากนั้นกรมสรรพากรก็สามารถระบุที่อยู่อาศัยและหมายเลขโทรศัพท์ที่ Sterlingov ได้ลงทะเบียนไว้ในบัญชีของ Mt GOX
“นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่นักตรวจสอบสามารถใช้ประโยชน์ได้จากความโปร่งใสของเครือข่ายบล็อกเชนเพื่อติดตามการไหลเวียนของเงินที่ผิดกฎหมาย” นาย Jonathan Levin ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านนิติวิทยาศาสตร์บล็อกเชน Chainalysis กล่าว