<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

VISA จับมือบริษัท Tala และ Circle เพื่อใช้งานเทคโนโลยีของ Stellar (XLM)

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าจากสถานการณ์ตลาดที่กำลังเป็นขาขึ้น มูลค่าของเหรียญ XLM เองก็ตอบสนองเพิ่มขึ้นตาม และประกาศจากทางองค์กร Stellar Development Foundation (SDF) เกี่ยวกับพันธมิตรใหม่ของบริษัททำให้ราคาของเหรียญพุ่งขึ้นไปอีก

โดยการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง VISA, Tala, และ Circle มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะเพิ่มการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดใหม่ ๆ ในเบื้องต้นการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Tala จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง stablecoin อย่าง USDC ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ ซึ่งสามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดน และยังมีฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและเงิน fiat

นอกจากนี้ VISA จะออกบัตรที่เชื่อมโยงเงินทุนกับกระเป๋าเงินดิจิทัล ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายเงินสกุลดิจิทัลของพวกเขากับร้านค้ากว่า 70 ล้านรายการทั่วโลก

ในปี 2021 VISA ได้เพิ่มกลยุทธ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาและดูเหมือนจะมีการบูรณาการเพิ่มเติมอีกในอนาคต บริษัทได้พยายามสำรวจการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลในแพลตฟอร์มการชำระเงินของพวกเขาเพิ่มขึ้น 

“เรากำลังสนใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีศักยภาพเพียงใด ในการช่วยผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้” Cuy Sheffield หัวหน้าแผนกสินทรัพย์ดิจิทัลของ VISA กล่าว

Shivani Siroya ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัท Tala ได้พูดถึงเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการให้ผู้คนสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้ในราคาประหยัด โดยการร่วมมือกับ SDF, VISA และ Circle เป็นการเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลครั้งแรก

“การร่วมมือกับบริษัทอย่าง Tala, VISA และ Circle เป็นความพยายามที่จะนำประโยชน์ของเทคโนโลยีมาใช้ ในการสร้างตลาดใหม่ ๆ และการเข้าใกล้พันธกิจของเราที่จะทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงระบบการเงินทั่วโลกได้อย่างเท่าเทียม” Denelle Dixon ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Stellar Development Foundation กล่าว

ดูเหมือนว่าจากสถานการณ์ตลาดที่กำลังเป็นขาขึ้น มูลค่าของเหรียญ XLM เองก็ตอบสนองเพิ่มขึ้นตาม และประกาศจากทางองค์กร Stellar Development Foundation (SDF) เกี่ยวกับพันธมิตรใหม่ของบริษัทของทำให้ราคาพุ่งขึ้นไปอีก

โดยการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง VISA, Tala, และ Circle มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะเพิ่มการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดใหม่ ๆ ในเบื้องต้นการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Tala จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง stablecoin อย่าง USDC ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลได้ ซึ่งสามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดน และยังมีฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและเงิน fiat

นอกจากนี้ VISA จะออกบัตรที่เชื่อมโยงเงินทุนกับกระเป๋าเงินดิจิทัล ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายเงินสกุลดิจิทัลของพวกเขากับร้านค้ากว่า 70 ล้านรายการทั่วโลก

ในปี 2021 VISA ได้เพิ่มกลยุทธ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาและดูเหมือนจะมีการบูรณาการเพิ่มเติมอีกในอนาคต บริษัทได้พยายามสำรวจการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลในแพลตฟอร์มการชำระเงินของพวกเขาเพิ่มขึ้น 

“เรากำลังสนใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีศักยภาพเพียงใด ในการช่วยผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้” Cuy Sheffield หัวหน้าแผนกสินทรัพย์ดิจิทัลของ VISA กล่าว

Shivani Siroya ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัท Tala ได้พูดถึงเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการให้ผู้คนสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้ในราคาประหยัด โดยการร่วมมือกับ SDF, VISA และ Circle เป็นการเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลครั้งแรก

“การร่วมมือกับบริษัทอย่าง Tala, VISA และ Circle เป็นความพยายามที่จะนำประโยชน์ของเทคโนโลยีมาใช้ ในการสร้างตลาดใหม่ ๆ และการเข้าใกล้พันธกิจของเราที่จะทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงระบบการเงินทั่วโลกได้อย่างเท่าเทียม” Denelle Dixon ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Stellar Development Foundation กล่าว