ในขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่กำลังเกิดอาการตื่นตระหนกและยอมตัดใจเทขายเหรียญคริปโตของพวกเขาในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนอยู่นั้น ดูเหมือนว่าทางด้านผู้เล่นหน้าเก่าที่อยู่ในตลาดมานานจะไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด
เหตุการณ์ ‘panic sell’ หรือการเทขายอย่างตื่นกระหนกได้เกิดขึ้นหลังจากที่นาย Elon musk ออกมาทวีตว่า บริษัท Tesla ของเขาอาจเทขาย BTC ที่ถือครองไปแล้วทั้งหมด ซึ่งส่งผลทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงแตะระดับ 42,000 ดอลลาร์แทบจะทันที
ข้อมูลจาก Glassnode เผยให้เห็นว่าผู้เล่นหน้าใหม่ส่วนใหญ่ยอมตัดขาดทุนในช่วงเวลาที่เหตุการณ์ดังกล่าว แต่ทว่าฝั่งของผู้เล่นหน้าเก่ายังคงนั้นยืนหยัดอยู่ได้และไม่ได้มีความกังวลใด ๆ
Glassnode ได้ตั้งข้อสังเกตว่าอัตรา Bitcoin spent output profit ratio (SOPR) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของการซื้อขายระหว่างกำไรขาดทุนของนักลงทุน ล่าสุดได้ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 1.0 และนั่นหมายความว่าในนักลงทุนระยะสั้นอาจยอมตัดใจเทขายเหรียญเพื่อป้องกันเงินทุนของพวกเขา (นักลงทุนที่มีการถือครองเหรียญน้อยกว่า 155 วัน)
Glassnode ชี้ให้เห็นว่า จำนวน Address ที่มี BTC ไม่เท่ากับ 0 นั่นได้ลดลงกว่า 2.8% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 38.7 ล้านราย
“จำนวนที่อยู่ทั้งหมด 1.1 ล้าน Address ได้ใช้จ่ายเหรียญทั้งหมดที่พวกเขาถือครองในช่วงระหว่างการปรับฐาน ซึ่งนี่เป็นหลักฐานที่ยันยืนแล้วว่า การเทขายอย่างตื่นตระหนกกำลังอยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการ”
Glassnode ยันยืนว่า ความผันผวนของส่วนแบ่งอุปทานที่แสดงให้เห็นโดยนักลงทุนระยะสั้นนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการเทขายอย่างตื่นตระหนก ซึ่งสังเกตเห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างรูปแบบล่าสุดในการกระจายอุปทานที่สังเกตเห็นได้ท่ามกลางจุดอิ่มตัวของช่วงขาขึ้นในปี 2017
ข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นว่า Bitcoin ที่ถือครองโดยนักลงทุนระยะสั้นนั้นได้พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 28% เมื่อเทียบกับอุปทานหมุนเวียนทั้งหมดหรือคิดเป็นจำนวนราว ๆ 5.3 ล้าน BTC
Glassnode ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ราคา Bitcoin ที่ลดลงมากกว่า 28% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 63,600 ดอลลาร์ในวันที่ 13 เมษายนนั้น ถือว่าเป็นการปรับฐานที่รุนแรงที่สุดในช่วงตลาดขาขึ้นรอบนี้