<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหตุผลที่เงินมหาศาลจะไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตอ้างอิงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯ ในไทย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในคลิปวิดีโอตอนล่าสุดทางช่อง Kim Property Live ที่มียอดผู้ติดตามกว่า 6.6 แสนคนบน Youtube ได้เผยแพร่เรื่องราวของ “Future Finance” หรือการเงินโลกอนาคตที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยเล่าถึงปริมาณเงินมหาศาลที่กำลังไหลเข้าสู่อุตสาหกรรม “ คริปโต” 

ซึ่งคุณ Kim ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึง 3 เหตุผลที่เม็ดเงินจะไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตและส่งผลให้ตลาดแห่งนี้จะเติบโตได้อีกมหาศาล อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากลงทุนระดับโลกอย่าง Ray Dalio หรือ Elon Musk ที่กระโดดเข้ามาในตลาดคริปโตและ Bitcoin ก่อนแล้ว

ในเหตุผลแรกนั่นคือเรื่องของ “การกระจายความเสี่ยง” ของบรรดาคนรวยหรือผู้ที่มีความมั่งคั่ง (Wealth) ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปในหลาย ๆ Asset Class ซึ่ง Bitcoin ก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์นั้น

“ไม่ได้บอกว่า Bitcoin ดีกว่าทองคำหรือดีกว่า Asset Class ตัวอื่น ๆ แต่จะบอกว่า Bitcoin หรือ Cryptocurrency มันมีคุณสมบัติบางอย่างที่ปกป้องความเสี่ยงที่ Asset Class ตัวอื่น ๆ ให้ไม่ได้”

โดย Asset Class ตัวอื่น ๆ เช่น หุ้น อสังหาฯ พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินสดนั้นมีความเสี่ยงที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับระบบการเงินที่ถูกดูแลโดย “รัฐ” ซึ่งคุณ Kim ได้ยกตัวอย่างระบบการเงินที่อ่อนแอในประเทศอย่าง เวเนซูเอลา หรือตุรกีที่ค่าเงินอ่อนลงถึง 30% แม้กระทั่งประเทศที่มีสงครามกลางเมืองก็อาจจะทำให้สินทรัพย์ของคุณนั้นด้อยค่าลงไปได้

“ผมมองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์การป้องกันความเสี่ยงที่ตัวอื่นให้ไม่ได้”

“นักลงทุนระดับโลกหลายคนหรืออย่าง Ray Dalio ไม่ได้ซื้อ Bitcoin เพราะว่าจะไป Moon หรือไปดวงจันทร์อะไร เขาซื้อในมุมของการประกันความเสี่ยง” คุณ Kim กล่าวเสริม

รวม 10 Youtube Channel ที่จะสอนให้คุณ...รวย!! |AFTERKLASS

เหตุผลที่สอง คุณ Kim อ้างอิงข้อมูลจาก Raoul Pal อดีตผู้บริหาร Goldman Sachs สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่กล่าวว่าปัจจุบันหากองทุนที่ให้ผลตอบแทนได้ยากมาก ทุกคนต่างรู้ดีว่าดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้ 0 มาเต็มที

ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนต้องทำคือมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี Productivity หรือที่ให้ผลตอบแทน ซึ่งในโลกของคริปโต เทคโนโลยี Blockchain หรือ Defi นั้นให้ผลตอบแทนที่มากกว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบดั้งเดิมอยู่แล้ว

โดยเทคโนโลยี Blockchain ที่ตัดตัวกลางออกไปทำให้เกิดการ “ลดต้นทุน” เช่น ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย สองปัจจัยดังกล่าวเป็นต้นทุนหลักที่ค่อนข้างสูงใน Service การเงินแบบดั้งเดิม 

เมื่อเทคโนโลยี Blockchain ที่ไม่มีตัวกลางเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้จะทำให้เกิดผลตอบแทนมหาศาลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจึงเป็นเหตุและผลให้เม็ดเงินอาจไหลเข้าสู่ตลาดแห่งนี้อีกมาก

เหตุผลสุดท้าย เป็นเรื่องของพฤติกรรมและ Mindset ของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไปรวมถึงผู้บริโภคที่มีความเชื่อมั่นในแต่ละยุคที่ไม่เหมือนกัน

“เมื่อก่อนเราเชื่อว่าพันธบัตรรัฐบาลนั้นดีที่สุดให้ผลตอบแทนถึง 10% แต่ปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลให้ผลตอบแทนไม่ถึง 1% ดังนั้นหากจะให้คำนิยามเหมือนกันในสมัยนี้นั้นคงยาก”

ซึ่งในปัจจุบันความเชื่อมั่นในการลงทุนแบบดั้งเดิมอาจจะเปลี่ยนไป หากจะให้นึกภาพง่าย ๆ ในยุคสมัยนี้สินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้อย่างสกุลเงินดิจิทัลก็สามารถมีมูลค่าได้ ไม่ใช่แค่ “ทองคำ” ที่ถูกตีตราว่ามีมูลค่าเพราะกฎหมายบอกไว้

โดยรวมแล้วเมื่อเหตุผล 3 ข้อที่กล่าวไปรุกคืบเข้ามาในโลกของการลงทุน เราอาจได้เห็นทิศทางของเม็ดเงินที่เข้ามาในเทคโนโลยี Blockchain หรืออุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น

อีกทั้งคุณ Kim ได้กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า 

“โลกเราไม่มีวันหมุนย้อนกลับ มีแต่หมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มีสองทางให้เราเลือกไม่ว่าเราจะมองดูมันผ่านไปหรือเราจะตะครุบมัน เห็นเป็นโอกาส แล้วก็ศึกษาเรียนรู้ไปกับมัน”