นักขุด cryptocurrency จากรัฐมอนทาน่าประเทศสหรัฐฯ กำลังริเริ่มสนับสนุนโครงการ Basin Creek Solar ซึ่งเป็นฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 300 เมกะวัตต์ในเมือง Butte เพื่อจัดหาแหล่งพลังงานสำหรับศูนย์ data center ที่กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ อ้างอิงจากรายงานข่าวท้องถิ่น Montana Standard
โดยบริษัท Madison River Equity LLC จะยื่นขอใบอนุญาตการใช้งานพิเศษในเดือนหน้าจากคณะกรรมการแบ่งเขตมอนทาน่าเพื่อสร้างโซลาร์ฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯบนที่ดินฟาร์มปศุสัตว์ส่วนตัวในเมืองบัตต์
เพิ่มขีดจำกัด และลดรายจ่ายในเวลาเดียวกัน
Madison River Equity เป็นบริษัทย่อยของ บริษัทที่ชื่อ FX Solutions ที่พัฒนาและจัดการศูนย์ data center ที่ชื่อว่า Atlas Power ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ Atlas Power โดยพวกเขานั้นมีแผนการในการขยายฟาร์มการขุดเหรียญคริปโตโดย GPU นั่นเอง
หากได้รับใบอนุญาตการใช้งานพิเศษทั้งหมด ทาง Atlas Power จะซื้อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของ Basin Creek Solar Project เพื่อมาใช้ในการขุดคริปโต โดยพวกเขามีใบอนุญาตในการใช้พลังงาน 75-megawatt จากรัฐแล้ว
ในไตรมาสที่สี่ของปี 2020 รัฐมอนทาน่ามีกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์เพียง 116 เมกะวัตต์เท่านั้น ซึ่งจุดอยู่ในอันดับที่ 43 ในสหรัฐอเมริกาตามรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์
Matt Vincent โฆษกของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กล่าวว่าทาง Atlas Power ได้ดำเนินการค่าใช้จ่ายและต้นทุนของพวกเขาด้วยการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพโดยปรับอัตราจากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 65 เป็น 25 เมกะวัตต์
Atlas power กำลังวางแผนที่จะขยายเหมืองขุดแบบ GPU โดยเพิ่มสิ่งปลูกสร้างใหม่ 8 แห่งในระยะสั้น โดยเชื่อว่า GPU ที่ถูกเพิ่มเข้ามาหลายพันตัวจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขุดเหรียญของพวกเขาได้มากขึ้นในอนาคต
การวิพากษ์วิจารณ์
เป้าหมายของโครงการดังกล่าวคือการให้พลังงานแก่เหมืองขุดด้วยพลังงานแสงอาทิตย์อย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะเอาพลังงานที่เหลือไปวางบนกริดเพื่อแบ่งไปให้ประชาชนได้ใช้กัน นักพัฒนากล่าวว่าโซลาร์ฟาร์มจะมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 40,000 หลังคาเรือนซึ่งเกินจำนวนบ้านเรือนในเมืองบัตต์ที่มีประมาณ 15,000 หลังตามที่ระบุไว้ในรายงานข่าวท้องถิ่น
ชาวบัตต์กังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการที่มีต่อชุมชนของพวกเขา คำวิจารณ์ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการสร้างพลังงานหมุนเวียนสำหรับโครงการขุดเหรียญ