Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอุปสรรคในแผนการทำงานของการอัปเกรด ETH 2.0 ในการประชุม Virtual Fintech Forum ที่งาน StartmeupHK Festival 2021 ณ ฮ่องกง
โดย Buterin กล่าวว่าปัญหาของการอัปเกรดไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านเทคโนโลยี แต่เป็นปัจจัยเกี่ยวกับคน ซึ่งเขายอมรับว่าการสร้าง Ethereum ที่เขาคาดไว้ว่าจะเสร็จภายใน 3 เดือนนั้น ความเป็นจริงแล้วมันใช้เวลานานถึง 18 เดือน และการอัปเกรด ETH 2.0 จะใช้เวลาในการสร้างนานกว่านั้นมาก
“เราคิดว่าเราจะใช้เวลา 1 ปีในการทำ Proof-of-Stake แต่ในความเป็นจริงมันใช้เวลานานถึง 6 ปี หากคุณคิดจะทำเรื่องซับซ้อนที่ต้องใช้เวลาสักพัก มันจะใช้เวลานานมากขึ้นไปอีก” Buterin กล่าว
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าภายในทีมมีความขัดแย้งกันหลายครั้งกว่าจะมาถึงจุดนี้ “ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโครงการของเรา ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเทคนิค แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับคน”
ตามแผนงานของ ETH 2.0 ระบุว่า Chains ของ ETH ทั้งสองจะรวมกันได้ภายในปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022 แต่ระยะที่หนึ่งของแผนที่เพิ่มความสามารถในการรองรับข้อมูลด้วยการ Sharding คาดว่าจะล่าช้าไปจนถึงปลายปี 2022
Buterin กล่าวว่า Ethereum เวอร์ชั่นปัจจุบันต้องเจอปัญหาจากความสำเร็จของตัวเอง ที่อุปสงค์บนเครือข่ายทำให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมพุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถทำธุรกรรมได้ อีกทั้งการวิพากษ์วิจารณ์และ FUD ต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้พลังงานของบิทคอยน์ ทำให้การอัปเกรดเป็นโปรโตคอลแบบ Proof-of-Stake กลายเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากขึ้น
Digiconomist รายงานว่าบล็อกเชนของ Ethereum ที่ใช้โปรโตคอลแบบ Proof-of-Work ในปัจจุบัน ใช้พลังงานเทียบเท่าเกาะฮ่องกง ถ้าเทียบกันเครือข่าย Proof-of-Stake ใหม่จะใช้พลังงานน้อยกว่าเดิมถึง 99.95%
อย่างไรก็ตาม Buterin ได้กล่าวว่าการอัปเกรด ETH 2.0 จะไม่ได้เป็นการโยนแพลตฟอร์ม Ethereum เวอร์ชั่นเก่าทิ้งแต่อย่างใด แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า