ร่างกฎหมาย S6486B ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Kevin Parker วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต ผ่านการเห็นชอบจากสภาสูงเป็นจำนวน 36 ต่อ 27 ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะจำกัดการดำเนินการขุดบิทคอยน์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้รัฐสามารถประเมินผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมได้
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการดำเนินการใหม่ในโรงงานไฟฟ้าเชื้อเพลิงคาร์บอน นอกจากนี้ยังจำกัดปริมาณการใช้พลังงานของเหมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำหนดให้มีการรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการทำเหมืองที่ใช้โปรโตคอลแบบ Proof-of-Work
กฎหมายดังกล่าวจะไม่ได้บังคับใช้แค่เพียงกับเหมืองขุดบิทคอยน์เท่านั้น แต่จะใช้กับเทคโนโลยีบล็อกเชนใด ๆ ที่ใช้โปรโตคอลแบบ Proof-of-Work ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้พลังงานในปริมาณมาก เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนและสร้างโทเค็นใหม่
โดยผู้เขียนร่างกฎหมายดังกล่าวมีความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของเหมืองในปัจจุบัน ที่จะมีการนำโรงไฟฟ้าเก่ามาใช้ในการดำเนินการขุดบิทคอยน์
“โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมากถูกปิดตัวลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ลดลง รวมไปถึงความสามารถในการถ่ายโอนไฟฟ้าที่ดีขึ้นและการเพิ่มขึ้นของแหล่งเชื้อเพลิงที่ไม่ใช้พลังงานคาร์บอน
การดำเนินงานที่ใช้โปรโตคอลแบบ Proof-of-Work เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน จะทำให้โรงไฟฟ้าเหล่านี้กลับมาทำงานอีกครั้ง และจะมีการใช้พลังงานที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งจะส่งผลต่อเสียต่อคุณภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยยะสำคัญ” ร่างกฎหมายดังกล่าวระบุ
เช่นเดียวกับที่ Mandy DeRoche รองผู้จัดการอัยการฝ่ายความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมได้กล่าวไว้กับ Decrypt เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“โรงไฟฟ้าเหล่านั้นควรจะถูกปิดการทำงานได้แล้ว”
บิทคอยน์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากปริมาณการใช้พลังงานจำนวนมาก แม้ว่าผู้สนับสนุนบิทคอยน์จะออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การใช้พลังงานของบิทคอยน์นั้นคุ้มค่า และสามารถใช้พลังงานสะอาดที่ไม่เป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้
อย่างไรก็ตามผู้ที่ไม่เห็นด้วยได้โต้แย้งว่าบิทคอยน์กำลังเพิ่มความต้องการพลังงานที่มากขึ้น ซึ่งพลังงานหมุนเวียนสามารถทดแทนความต้องการจำนวนมากนั้นได้เพียงแค่บางส่วน