นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส Covid-19 ความสนใจ bitcoin และ cryptocurrencies ในสหรัฐอเมริกาก็ดูเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และตอนนี้นักเทรดในสหรัฐฯ กำลังทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ
จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อกเชน Chainalysis เผยว่า ชาวอเมริกันได้เห็นกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาเพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์
Bitcoin ทำให้คนรวย
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เริ่มสร้างความเสียหายให้กับตลาดการเงินนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ในขณะที่เศรษฐกิจถูกบังคับให้ปิดตัวลง หุ้นและธุรกิจจำนวนมากก็ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
แต่ในขณะเดียวกันสินทรัพย์ดิจิทัลกลับเริ่มถูกซื้อมากขึ้น โดยนักลงทุนที่มีชื่อเสียง เช่นนาย Stanley Druckenmiller และนาย Paul Tudor Jones รวมถึงบริษัทอย่าง Square, Tesla และ MicroStrategy
สิ่งเหล่านี้เป็นผลให้ชาวอเมริกันจำนวนมากได้รับประโยชน์โดยตรง ซึ่งจากการวิจัยล่าสุดของ Chainalysis พบว่านักลงทุนในสหรัฐอเมริกามีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 4.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้แล้ว Chainalysis ยังสังเกตุเห็นด้วยว่า จีนเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสหรัฐฯ ที่มีนักลงทุนทำกำไรได้มากถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกัน
นาย Kim Grauer ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Chainalysis กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนในสหรัฐฯ ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมหาศาลนั้นมากจากข้อเท็จจริงที่ว่า สถาบันหลายแห่งเริ่มก้าวเข้ามาลงทุนใน Bitcoin :
“จากข้อมูลวิจัยในอดีตเราพบว่า มีการลงทุนในสินทรัพย์คริปโตของสถาบันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มเก็บสะสม bitcoin นับตั้งแต่ปีที่แล้ว ดังนั้นเราจึงสงสัยว่า นักลงทุนสถาบันน่าจะได้รับกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อราคามีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี”
นอกเหนือจากสหรัฐฯ และจีนแล้ว ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีนักลงทุนทำกำไรได้ลำดับรองลงมา โดยมีกำไรจากสินทรัพย์คริปโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 929 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยอังกฤษ 829 ล้านดอลลาร์ รัสเซีย 632 ล้านดอลลาร์ และ เยอรมัน 607 ล้านดอลลาร์