Su Zhu ซีอีโอของกองทุนเพื่อการลงทุนคริปโต Three Arrows Capital ได้ออกมาเผยถึงการวิเคราะห์ของเขาถึงสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงอย่างรุนแรงในปลายเดือนพฤษภาคม และตลาดคริปโตจะมุ่งหน้าไปที่ใดต่อไป
โดยอ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของเขากับรายการ Uncommon Core นั้น นาย Zhu กล่าวว่าการจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาที่พุ่งสูงขึ้นของ Bitcoin ที่มาพร้อมกับข่าวร้าย มักจะมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่ ซึ่งลดมูลค่าของ BTC นั้นได้ลดลงไปมากกว่า 50%
นาย Zhu กล่าวถึงการปิดตัวของเหมืองขุด Bitcoin ในประเทศจีน และทวีตของ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ที่วิจารณ์ BTC ว่าเป็นทรัพย์สินที่ไม่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม
“ผมคิดว่ามีข่าวมากมายที่ออกมาในช่วงนั้นซึ่งค่อนข้างแย่โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับการขุดในจีน แต่จากนั้นในสหรัฐอเมริกาก็มีทวีตของ Elon เกี่ยวกับการใช้พลังงานของ Tesla และ Bitcoin นั่นไม่ใช่สาเหตุหลัก ๆ แต่ เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น และผมคิดว่าตลาดใช้สิ่งนั้นเป็นชนวนเพื่อเริ่มเทขายทำกำไร ดังนั้นผมคิดว่ามันเป็นจุดสูงสุดของตลาดแล้ว บวกกับความจริงที่ผู้คนที่เคยซื้อมาตลอดพูดว่า ‘โอเคถ้าฉันรอแล้วฉันจะได้ซืัอมันในราคาที่ต่ำกว่ามากดังนั้นฉันจะรอ’
ดังนั้น ผมคิดว่านั่นถือเป็น 2 ปัจจัยหลัก ๆ ในตลาด แต่ถ้าคุณลองดูวิธีที่ตลาดเด้งกลับ คุณจะเห็นว่าผู้ซื้อเหล่านั้นยังคงอยู่ที่นั่น มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาจุดราคาที่พวกเขาจะเข้าซื้อ ในช่วงเริ่มต้นและช่วงกลางของขาขึ้นครั้งนี้พวกเขาต้องซื้อในราคาที่สูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ และคราวนี้พวกเขาก็สามารถที่จะซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่าเมื่อก่อน
โดยสรุปแล้ว มันยังมีอุปสงค์ในการซื้ออีกมหาศาล”
ในการให้สัมภาษณ์นั้น นาย Zhu ยืนยันว่า “ตลาดขาขึ้นยังไม่จบ” และการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) กำลังจะเข้ามา disrupt ผลิตภัณฑ์การลงทุนของสถาบันการเงินทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนค้นพบว่าผลตอบแทนนั้นสูงกว่า
จากข้อมูลของผลการสำรวจที่นาย Zhu ทำเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่ากองทุนป้องกันความเสี่ยงกำลังวางแผนที่จะทุ่มเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่อไปซื้อ crypto และนี่จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่จะทำให้ตลาดนั้นกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงได้ในอนาคต
“ความจริงก็คือเมื่อมีการ disrupt แบบนี้เกิดขึ้น และผู้คนคุ้นเคยกับแนวคิดเรื่องความหายากของอุปทานแบบนี้ คุณจะได้เห็นผู้ที่เข้ามาในตลาดตามกลไกธรรมชาติเมื่อราคามีการลดลง คนเหล่านี้ซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้เหมือนกับตราสารเช่นทองแดงหรือสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ พวกเขาจะหาเหตุผลที่จะซื้อมันและหาเหตุผลในการขายมันด้วย ดังนั้นผมคิดว่ากระบวนการทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างดีในระยะยาวเพราะมันขยายฐานผู้ถืออย่างหนาแน่น”