เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามรายงานจาก Jerusalem Post รองผู้ว่าการธนาคารแห่งอิสราเอล Andrew Abir กล่าวว่าสถาบันการเงินได้เริ่มโครงการนำร่องสำหรับเงินชิเกลดิจิทัล โดยในงานประชุม Fair Value Forum ที่ IDC Herzliya นาย Abir ได้เปิดเผยว่าตัวเขาไม่ได้มีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารหรือ CBDC แม้จะยืนยันว่ากำลังดำเนินการทดสอบโครงการนำร่องอยู่
“ก่อนหน้านี้ผมเคยประเมินว่าโอกาสที่เราจะมี CBDC ภายในห้าปีอยู่ที่ 20% แต่ความเป็นไปได้ดูจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นเพราะประเทศอื่นกำลังมีความก้าวหน้าเกี่ยวกับมัน แต่มันก็ยังมีโอกาสน้อยกว่า 50% อยู่ดี” Abir กล่าว
เมื่อเดือนที่แล้วทางธนาคารได้มีการประกาศว่ากำลังเตรียมแผนปฏิบัติการเพื่อศึกษาประโยชน์ของ CBDC ต่อเศรษฐกิจของอิสราเอล และเตรียมพร้อมที่จะทำตามแผน หากพบว่าผลประโยชน์ที่ได้นั้นคุ้มค่าเมื่อเทียบกับต้นทุนและความเสี่ยงที่ต้องจ่าย
ในขณะนั้นทางธนาคารกลางแห่งอิสราเอลกล่าวว่าอาจพิจารณาการออกสกุลเงิน CBDC หากเป็นไปตามความต้องการในอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลและมันสามารถพัฒนาการชำระเงินข้ามพรมแดนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางธนาคารยังหวังว่าจะลดการใช้เงินสดและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนสามารถชำระเงินด้วยความเป็นส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง
“ทางเลือกสำหรับ CBDC ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วไม่ได้บอกว่าเรากำลังทำอะไร แต่เป็นการแบ่งปันสิ่งที่เราไม่รู้และรับข้อเสนอแนะจากสาธารณะ” Abir กล่าว พร้อมกับเสริมว่าทางธนาคารกลางของอิสราเอลจะยังคงมีส่วนสำคัญต่อระบบการชำระเงินทั้งหมด หลังจากมีการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่า Abir ดูเหมือนเต็มใจที่จะรวม CBDC เข้ากับเศรษฐกิจของประเทศ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้วิพากษ์วิจารณ์บิทคอยน์ในฐานะของการชำระเงิน
“สิ่งที่เรากำลังพูดถึง (CBDC) คือระบบการชำระเงิน แต่บิทคอยน์ไม่ใช่ระบบการชำระเงินหรือสกุลเงิน อย่างดีมันก็เป็นสินทรัพย์ทางการเงิน อย่างแย่มันก็คือแชร์ลูกโซ่”
โดยธนาคารกลางของอิสราเอลได้มีการศึกษา CBDC ตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่แล้ว ด้วยการจัดตั้งกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ทำการสำรวจศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อปี 2018 ทางทีมงานไม่แนะนำให้ธนาคารแห่งอิสราเอลออกสกุลเงินดิจิทัล โดยให้เหตุผลว่ายังไม่มีระบบเศรษฐกิจที่ไหนที่ออกสกุลเงินดิจิทัลเพื่อการใช้งานในวงกว้าง