การประกาศล่าสุดจากประธานาธิบดี Nayib Bukele ของเอลซัลวาดอร์ ได้ชี้แจงว่าประชาชนในประเทศจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กระเป๋าเงินบิทคอยน์ ‘Chivo’ ที่รัฐบาลออกให้
ในทวีตเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ประธานาธิบดี Bukele ได้กล่าวเขาต้องการชี้แจงประเด็นที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับกระเป๋าเงินบิทคอยน์ของรัฐบาล หลังจากการผ่านกฎหมายบิทคอยน์ของประเทศเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 กันยายน
โดยประธานาธิบดี Bukele ได้อธิบายว่ากระเป๋าเงินบิทคอยน์ที่ชื่อ ‘Chivo’ ที่เป็นคำแสลงของ ‘Cool’ หรือ ‘เจ๋ง’ ในเอลซัลวาดอร์ เป็นเพียงหนึ่งในกระเป๋าเงินดิจิทัลหลาย ๆ ใบที่สามารถใช้งานได้ และเน้นย้ำถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับแอปกระเป๋าดิจิทัลอื่น ๆ
ในส่วนของความกังวลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัว ประธานาธิบดี Bukele ได้กล่าวว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ร้องขอโดยแอปพลิเคชันดังกล่าว เป็นข้อมูลที่ครอบครองโดยรัฐบาลอยู่แล้ว และเป็นข้อมูลที่มีไว้เพียงเพื่อรักษาความปลอดภัย
นอกจากนี้ประธานาธิบดี Bukele ยังเน้นย้ำว่าการโอนเงินด้วยกระเป๋าเงิน Chivo จะไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่น แตกต่างจากการแลกเปลี่ยนคริปโตแบบเดิม ๆ ที่มีการหักค่าธรรมเนียมในการแปลงบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดอลลาร์ และไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นเหมือนอย่างในบัตรเครดิต
ประธานาธิบดี Bukele กล่าวว่าสกุลเงินใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นดอลลาร์หรือบิทคอยน์ที่ถือหรือรับโดยกระเป๋าเงิน Chivo จะสามารถถอนออกมาเป็นเงินดอลลาร์ได้ตลอดเวลา เมื่อรัฐบาลได้มีการเปิดตัวตู้ ATM บิทคอยน์จำนวน 200 ตู้ ที่มีชื่อว่า ‘Chivo Points’ หรือ ‘Chivo ATMs’
แต่ประธานาธิบดี Bukele ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการแจกบิทคอยน์มูลค่า 30 ดอลลาร์ของรัฐบาล ที่ประกาศเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ว่าเงินดังกล่าวจะไม่สามารถแปลงเป็นดอลลาร์ได้ โดยเขาได้เน้นย้ำถึงความตั้งใจของฝ่ายบริหารที่จะสนับสนุนการใช้บิทคอยน์และกระเป๋า Chivo
แม้ความคิดริเริ่มเกี่ยวกับกระเป๋าเงินดิจทัลอาจจะสามารถปฏิวัตินโยบายการเงินในประเทศอเมริกากลางได้ แต่ข้อมูลจาก NASDAQ รายงานว่าประชากรประมาณ 70% ของประเทศเอลซัลวาดอร์ยังไม่สามารถเข้าถึงบัญชีธนาคารหรือบริการทางการเงินใด ๆ ได้