<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชายชาวมอลตาถูกกล่าวหาว่าขโมยเหรียญ Crypto มูลค่า 22.5 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ชายชาวมอลตารายนึงกำลังเผชิญหลายข้อหา โดยเขาถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงคริปโตมูลค่าประมาณ 700,000 ดอลลาห์จากเพื่อนของเขาระหว่างที่ดื่มกัน

รายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันอังคารเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนกำลังสอบสวนผู้ต้องสงสัยในระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งเกิดขึ้นต่อหน้าผู้พิพากษา Donatella Frendo Dimech

ชายคนนี้ได้ถูกตั้งข้อหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อหาการฟอกเงิน, การยักยอกเงิน, การขโมยเงินดิจิตอล, การต่อต้านการจับกุมอย่างรุนแรง, การครอบครองสิ่งของที่ใช้สำหรับการฉ้อโกง, และการจัดการสินค้าที่ถูกขโมย

เรื่องราวเป็นมาอย่างไร

Luke John Milton ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการบริษัทอายุ 25 ปี ได้พบกับ Dillon Attard เหยื่อวัย 27 ปี ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุการณ์ หลังจากที่เขามีความสนใจเกี่ยวกับโปรเจ็คบล็อคเชน ขณะที่สำรวจเกี่ยวกับเงินกู้สกุลเงินดิจิทัล

การประชุมครั้งแรกของพวกเขาเกิดขึ้นที่สำนักงานแห่งหนึ่งใน Burmarrad หลังจากที่มีการติดต่อทาโทรศัพท์กันหลายครั้ง Attard ได้พบกับผู้ต้องหาและบุคคลที่สาม  ซึ่งเขาเผยว่าเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของ Milton

ทั้งคู่ตกลงที่จะพบกันเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร Sliema หลังจากที่ Milton ขอความช่วยเหลือจาก Attard เพื่อลงทุนบล็อคเชนทางโทรศัพท์มูลค่า 5,000 ยูโร หรือประมาณ 5,932 ดอลลาห์

คริปโตมูลค่า 700,000 ดอลลาร์ หายไปอย่างกะทันหัน

เมื่อทั้งสองพบกันนาย Attard ได้บอกกับ Milton ว่า ตลาดมีความผันผวนอย่างมากในวันนั้น แต่เขายืนยันที่จะดำเนินการธุรกรรมต่อไป

จากนั้น Attard มอบโทรศัพท์ให้กับผู้ต้องหา เพื่อสแกนบาร์โค้ดบนกระเป๋าเงินดิจิตอลของเขา โดย Milton ได้โอนเงินในกระเป๋าเงินของเหยื่อไปยังอีกกระเป๋าหนึ่ง ในขณะที่ยังคงดื่มไวน์กับเขาอยู่

เมื่อเหยื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น เขาก็รีบคว้าโทรศัพท์จากผู้ต้องหาทันที หลังจากนั้นเขาได้พบว่ากระเป๋าเงินดิจิตอลของเขา ซึ่งเคยมีโทเค็น Unizen ประมาณ 424,670.97 เหรียญ มูลค่า 700,000 ดอลลาห์สหรัฐได้กลายเป็นศูนย์แล้ว

เหยื่อคร่ำครวญและกล่าวว่า “ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยตอนที่หยิบมือถือกลับมา และเห็นว่ายอดคงเหลือในกระเป๋าเงินเป็นศูนย์” 

โยนความผิด

เขารีบโทรหาเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นจ่าตำรวจและแจ้งเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่น่าสงสัยครั้งนี้ และขอความช่วยเหลือจากเขา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ  นาย Milton พยายามเปลี่ยนโยนความผิดไปให้ Attard โดยอ้างว่าเขาเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง

หลังจากเจ้าหน้าที่จากแผนกสืบสวนอาชญากรรมทางการเงิน (FCID) มาถึง และสั่งให้ชายทั้งสองมอบโทรศัพท์ให้ Milton เริ่มกระวนกระวายใจและปฏิเสธที่จะมอบโทรศัพท์ให้

เขายังยืนกรานจับตาดูโทรศัพท์ของเขา เมื่อเขาถูกควบคุมตัว โดยอ้างว่าเขาไม่ต้องการให้อุปกรณ์ถูกดัดแปลง

คดีนี้มีกำหนดจะดำเนินต่อไปในวันที่ 11 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้รหัสผ่านกับโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กำลังหาผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์นี้

ที่มา: cryptopotato