เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางแห่งนิวซีแลนด์ได้มีการประกาศการหารือเกี่ยวกับ ระบบสกุลเงินที่ช่วยสนับสนุนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนิวซีแลนด์ โดยผู้ช่วยผู้ว่าการ Christian Hawkesby กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังนึกถึงระบบสกุลเงินที่ยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพ ซึ่งได้พูดถึงนวัตกรรมดิจิทัลอีกด้วย
โดยการปรึกษาหารือเบื้องต้นจะให้ความสำคัญกับการดูแลด้านการเงินและเงินสดในระดับสูง และ Hawkesby ยืนยันว่าจะมีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประเด็น CBDC รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ อย่างบิทคอยน์และ Stablecoins
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคือความไม่พอใจของสาธารณชนที่มีต่อระบบเงินสดและบริการธนาคาร ทำให้โลกกำลังก้าวเข้าสู่ธุรกรรมดิจิทัลอย่างรวดเร็ว นำโดยประเทศในทวีปเอเชียที่มีการพัฒนาอย่างสูงในด้านระบบการชำระเงิน เช่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านโครงการ CBDC มากที่สุด
Hawkesby หวังว่า CBDC จะสามารถแก้ปัญหาความท้าทายในการจัดหาเงินสด และอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม
“ศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางที่จะช่วยลดการใช้เงินสดและบริการที่เป็นรูปธรรม เป็นสิ่งที่เราต้องการศึกษาในประเทศนิวซีแลนด์ แม้ CBDC หรือเงินสดดิจิทัลจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา แต่เราจำเป็นที่จะต้องมีการทดสอบแนวทางต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการพัฒนาข้อเสนอใด ๆ”
จากประกาศดังกล่าว ทำให้นิวซีแลนด์กลายเป็นประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมการทำงานเกี่ยวกับ CBDC ที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หลายประเทศเริ่มจะแน่ใจเกี่ยวกับการเปิดตัว CBDC ของตัวเองกันแล้ว เช่น ประเทศจีน, แคนาดา, ญี่ปุ่น และสวีเดน ขณะที่กัมพูชาและบาฮามาสได้มีการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางเรียบร้อยแล้ว และได้ถูกจัดอันดับโดย PwC บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลกให้เป็น CBDC สองอันดับแรก
ความสนใจที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลเริ่มมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยี หรืออาจจะเป็นเพียงความกังวลที่พวกเขามีต่อสินทรัพย์คริปโตที่กำลังเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า CBDC จะช่วยสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี
ดูเหมือนว่าปี 2022 จะเป็นปีแห่ง CBDC แม้ว่าจะไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่เราก็น่าจะได้ทราบถึงการทดลองการใช้งาน CBDC จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก