หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเครือข่าย Lightning Network หนาหูมากขึ้นในปีนี้ เนื่องด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องการทำธุรกรรมที่สะดวกรวดเร็ว มีค่าธรรมเนียมราคาถูก บนพื้นฐานเทคโนโลยี Layer แบบ 2 ชั้นที่อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าการทำธุรกรรม Bitcoin บนเครือข่ายในอนาคต
แต่ถึงกระนั้นยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่า เครือข่าย Lightning Network มีวิธีการใช้งานอย่างไร โดยในบทความเราจะนำเสนอวิธีการใช้งานเครือข่าย Lightning Network แบบคร่าว ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน
Lightning Network คืออะไร ?
Lightning Network (LN) เป็นเครือข่ายที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าใน blockchain ของ Bitcoin อันเนื่องมาจากการประมวลผลธุรกรรมมหาศาล (Scalability Problem)
เมื่อเครือข่ายคริปโทเคอร์เรนซีเติบโตมากขึ้น มีผู้คนสนใจเข้าตลาดกันมากขึ้น ก็ส่งผลให้ปริมาณธุรกรรมในระบบเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ทำให้เกิดความล่าช้าในเครือข่าย อัตราการทำธุรกรรมต่อวินาที (Transactions per Second หรือ TPS) ไม่เพียงพอ Lightning Network จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยการทำธุรกรรมนอก Blockchain (Off-Chain) แล้วค่อยรวมผลลัพธ์เข้ากับเครือข่ายหลักในภายหลัง
การทำธุรกรรมนอก blockchain นั้น ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมกี่ครั้งก็ได้ เมื่อทำธุรกรรมเรียบร้อยหมดแล้ว Payment Channel ที่เป็นการทำธุรกรรมนอก blockchain จะถูกปิดไป แล้วจะบันทึกผลสรุปธุรกรรมลงใน blockchain ผ่านสัญญา smart contract
นอกจากนี้ ผู้ใช้ Lightning Network ยังสามารถทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกันโดยตรง กล่าวคือ หาก A มี chanel ที่เปิดกับ B และ B มี chanel ที่เปิดกับ C แต่ A ไม่มี chanel ที่เปิดกับ C A ก็ยังสามารถทำธุรกรรมกับ C ได้ ผ่านเครือข่ายที่เชื่อมต่อกันนั่นเอง
Lightning Network เวอรชั่นเบต้า (Lightning Network Daemon) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ทำให้มีโหนดและ Payment Channel เกิดขึ้นมากมายจวบจนถึงปัจจุบัน
การทดลองใช้ Lightning Network บน Testnet
คุณสามารถทดลองสร้างกระเป๋าเงิน wallet สำหรับเครือข่าย Lightning ได้ที่เว็บไซต์ https://htlc.me/ และสามารถทดลองจ่ายเงินผ่านเว็บที่ support LN บน testnet ได้ดังรายชื่อตามด้านล่าง แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการใช้ LN จะต่างกับการโอนเงิน Bitcoin แบบปกติเล็กน้อยตรงที่ ฝั่งผู้รับจะต้องเป็นคนออก invoice ให้ก่อน แล้วฝั่งผู้โอนถึงค่อยเอา invoice นั้นมาใช้การในการส่ง Bitcoin อีกที
- https://starblocks.acinq.co/#/ ร้านกาแฟ Starbuck
- https://yalls.org/ บทความที่เราสามารถเก็บเงินจากการอ่านได้
- https://lightning.bitrefill.com บริการเติมเงินมือถือ
การทดสอบติดตั้ง Node บนเครือข่าย Lightning Testnet
อันดับแรกเลยให้คุณเข้าไปที่ Github ในหน้าของ Lightning Project เพื่อดาวน์โหลดไคลเอนต์ลงบน Windows ( Lightning-win32) หรือ Mac Os (Lightning-darwin)
อันดับต่อไปให้คุณใช้ faucet ของนักพัฒนา @metakiwi เพื่อทดสอบโอน Bitcoin ไปยัง Lightning App ของคุณหรือการถอนเงินไปยังแอพมือถือเช่น Copay หรือ Blue wallet
เมื่อคุณเปิดแอพ Lightning สิ่งแรกคุณต้องทำก็คือการซิงค์ข้อมูลกับเครือข่าย Bitcoin Testnet ที่มีมากกว่า 1 ล้านบล็อก แต่การซิงค์ข้อมูลไม่ควรใช้เวลานานเกินกว่าสองชั่วโมง
เมื่อเสร็จแล้วคุณจะสามารถโอนเหรียญ Testnet ไปยัง Address ด้านล่าง และต้องรอการยืนยันธุรกรรมอย่างน้อย 1 confirm เพื่อให้การชำระเงินเสร็จสมบูรณ์ หากการทำธุรกรรมล้มเหลวให้คุณลองปิดแอปแล้วเปิดใหม่อีกครั้งอาจช่วยได้
ในการทำธุรกรรมกับคนอื่นอย่างแรกเลยคุณจะต้องเปิด Chanel และกรอกรหัส Public chanel ของผู้ที่คุณจะทำธุรกรรมด้วย รวมถึงที่อยู่ IP Address ของพวกเขา หากคุณมีเพื่อนที่ใช้ Lightning อยู่แล้วก็เป็นเรื่องที่ง่าย แต่หากไม่มีคุณก็จะต้องขอที่อยู่ IP Address มาจากพวกเขา
ในขั้นตอนการโอนเงินให้กับใครสักคุณจะต้องส่งคำขอการชำระเงิน ไปให้กับพวกเขาเพื่อรับใบ Invoice
สำหรับในแพลตฟอร์ม Starblock คุณสามารถซื้อกาแฟเสมือนจริงได้ทันทีด้วย Bitcoin โดยคลิกที่กาแฟที่คุณชอบไปที่หน้าการชำระเงินและคัดลอกคำขอ (ใบ Invoice) การชำระเงินลงในกระเป๋าเงินของคุณ
ในส่วนของการรับเงินจากใครสักคน คุณจะต้องเปิด Chanel ของคุณพร้อมกรอกจำนวน Bitcoin สูงสุดที่คุณจะต้องการรับ จากนั้นให้การคัดลอกที่อยู่เพื่อส่งให้กับ ฝั่งผู้โอน ตามภาพด้านล่าง
ข้อสรุป
แน่นอนว่ามันรู้สึกตื่นเต้นมากในครั้งแรกที่ได้ทดลองใช้เครือข่าย Lightning Network แม้ว่ามันจะมีข้อผิดพลาดบางประการ แต่ในอนาคตทางผู้เขียนเชื่อว่ามันจะมีความเชื่อมั่นมากพอจนทำให้ผู้คนหันมาใช้มันสำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น และเมื่อถึงจุด ๆ นั้น Bitcoin จะกลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งก็ต้องติดตามรอดูกันต่อไป