<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แฟนพันธุ์แท้ทองคำ Peter Schiff เตือนว่าฟองสบู่ Crypto กำลังจะแตก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักวิพากษ์วิจาร์ บิทคอยน์ Peter Schiff กลับมาอีกครั้งพร้อมความมั่นใจที่มากกว่าเดิมว่าฟองสบู่คริปโตเคอร์เรนซีกำลังจะแตกออก

ในหน้าบัญชีทวิตเตอร์ของเขามีการโต้เถียงกับผู้สนับสนุนบิทคอยน์อย่างดุเดือด โดย Schiff ได้แสดงความคิดเห็นล่าสุดเมื่อวันที่มูลค่าการซื้อขายของบิทคอยน์พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6 โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคมผ่านมา ราคาบิทคอยน์ได้พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด 12% ใน 24 ชั่วโมง แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน แม้ว่าราคาบิทคอยน์จะลดลงเล็กน้อย แต่ ณ เวลที่เขียนข่าวอยู่นี้มีการซื้อขายกันอยู่ที่ 39,934 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Schiff ยืนกรานว่าราคาบิทคอยน์จะถึงจุดจบ และแนะนำให้ผู้คนหันไปซื้อสินทรัพย์การลงทุนที่มีเสถียรภาพและได้รับการพิสูจน์แล้วอย่างทองคำหรือหุ้นแทน

นอกจากนี้ Schiff ยังตกใจกับอุปทานที่เขาเชื่อว่าไม่สมจริงและยิ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่น่าไว้วางใจมากขึ้นไปอีก

“อุปทานของสกุลเงินคริปโตตอนนี้อยู่ที่ 11,059 สกุลเงิน (ณ เวลาที่เขียนข่าวอยู่ที่ 11,085) เมื่อสองเดือนที่แล้วมันยังเพิ่งมีประมาณ 10,000 สกุลเงินอยู่เลย ทำให้โดยรายปีแล้วมันมีอัตราเงินเฟ้อประมาณ 60% นอกจากนี้อุปทานของเหรียญแต่ละตัวอย่างบิทคอยน์ก็ยังเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อของคริปโตเคอร์เรนซีสูงกว่าเงิน Fiat มาก!” Schiff กล่าว

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา Schiff ยังชี้ให้เห็นว่าบิทคอยน์ไม่ได้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเหมือนอย่างทองคำ โดยในช่วงต้นสัปดาห์นั้นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงอย่างทองคำและเงินถูกเทขายออกไป เช่นเดียวกับบิทคอยน์ แต่หลังจากที่ทองคำและเงินฟื้นตัวในวันรุ่งขึ้น บิทคอยน์กลับร่วงลงอีกครั้ง

นั่นทำให้ Schiff ได้ออกมาเยาะเย้ยเหล่า Hodlers ว่าพวกเขาถือสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่ไม่ได้คำนึงถึงทิศทางของสินทรัพย์อื่น ๆ เลย ซึ่งทางผู้สนับสนุนคริปโตก็ออกมาแสดงความคิดเห็นโต้เถียงให้ตัว Schiff เองกลับไปดูทิศทางของมวลชนมากกว่า

“ถ้าคุณขับรถบนถนนแล้วเห็นว่าทุกคนขับรถมาผิดทาง เป็นไปได้ว่าตัวคุณเองนั่นแหละที่ผิด บิทคอยน์คืออนาคต” เขากล่าว

อย่างไรก็ตามนอกจาก Schiff แล้วยังมีนักเศรษฐศาสตร์ Bernard Connolly ที่ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับฟองสบู่คริปโตที่กำลังจะเกิดขึ้น และมันจะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง หากหน่วยงานกำกับดูแลและธนาคารไม่ได้มีการควบคุมไว้แต่เนิ่น ๆ

Connolly ได้วิพากษวิจารณ์คริปโตเคอร์เรนซีว่าเป็นการสร้างความมั่งคั่งที่ลวงตา ไม่ยั่งยืน และจะสร้างปัญหาในระยะยาว

นอกจากนี้ยังมี Andrew Bailey ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ ที่ได้ออกมาเตือนนักลงทุนไม่ให้เดิมพันกับบิทคอยน์ในฐานะสินทรัพย์การลงทุน และบอกว่ามันอันตรายและอาจไม่มีค่าอะไรเลย เช่นเดียวกันกับธนาคารอื่น ๆ ที่ Bailey พูดเป็นนัยว่าธนาคารสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง (CBDC) แทนที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัล เพื่อปกป้องอันตรายที่อาจเกิดขึ้น