นาย Don Beyer สมาชิกสภาคองเกรสแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ได้มีการเสนอร่างกฎหมายใหม่ในความพยายามเพื่อที่จะกำกับดูแลตลาด Crypto โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องนักลงทุนและส่งเสริมนวัตกรรม
Don Beyer ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีวัตถุประสงค์ในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีในสหรัฐฯ เพื่อให้มีกฎระเบียบที่ชัดเจนมากขึ้น
Beyer ไม่มีอะไรนอกจากการกล่าวยกย่องตลาด crypto แม้เขาจะพูดเน้นย้ำอยู่เสมอว่ากรอบการกำกับดูแลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภาพรวมของตลาดและตัวของนักลงทุน หลังจากที่สินทรัพย์อย่าง Bitcoin และ Ethereum ได้สร้างปัญหามากมายให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ
“ผู้ถือทรัพย์สินดิจิทัลต้องเผชิญกับการฉ้อโกง การโจรกรรม และการปั่นราคาตลาดมาเป็นเวลานานหลายปี แต่สภาคองเกรสกลับเพิกเฉยต่อคำขอร้องของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างกรอบกฎหมายที่ครอบคลุม กฎหมายของเรานั้นล้าหลัง แม้การเสนอร่างฉบับใหม่ของผมจะเริ่มกระบวนการล่าช้าเป็นเวลานานแต่ก็เพื่อยกระดับการคุ้มครองขั้นพื้นฐานให้แก่ผู้ถือสินทรัพย์ดิจิทัลและนักลงทุนทุกคน”
Beyer กล่าวว่าข้อเสนอร่างกฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้สำนักงาน ก.ล.ต. และ CFTC ของสหรัฐอเมริกามีอำนาจเหนือสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้เขาได้ยังเรียกร้องให้กำหนดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเครื่องมือทางการเงินภายใต้พระราชบัญญัติความลับของธนาคารอีกด้วย ซึ่งจะเป็นไปตามมาตรฐาน AML
สำหรับการเรียกร้องอื่น ๆ ในข้อเสนอร่างกฎหมายก็คือ การคุ้มครองผู้ลงทุน การป้องกันเงินทุนสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และความโปร่งใส โดยจุดหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือ ถ้าหากข้อเสนอนี้ผ่านร่างก็จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีอำนาจในการออก CDBC ของตนเอง ซึ่งเรื่องนี้กำลังได้รับแรงผลักดันจากรัฐบาล และเราอาจเคยได้ยินมาบ้าแล้วว่าสหรัฐฯ กำลังมีแผนที่จะเปิดตัวเงินดอลลาร์ดิจิทัลเป็นของตัวเองในเร็ว ๆ นี้
ข้อเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกาที่บ่งชี้ให้เห็นถึงกรอบการกำกับดูแลที่กำลังเข้ามา และทางการสหรัฐฯ เริ่มมีการพูดถึงตลาด crypto มากขึ้นแล้ว ซึ่งเห็นได้จากก่อนหน้านี้ที่ได้มาเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลเหรียญ Stablecoin การคุ้มครองนักลงทุน และการแก้ไขกฎหมายหลักทรัพย์เพื่อช่วยจัดการกับคดีการฟ้องร้อง crypto
จนถึงปีนี้ สหรัฐฯ ยังคงถูกจับตามองในเรื่องของกฎระเบียบ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและคนในวงการได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการออกกฎระเบียบ Crypto ให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าอเมริกาต้องสูญเสียผลประโยชน์ไปอย่างมากต่อการเพิกเฉยในช่วงที่ผ่าน ๆ มา อย่างไรก็ตาม ตลาดกระทิงในปีนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวจุดประกายความสนใจใหม่ให้กับตลาด และช่วยทำให้การคุ้มครองนักลงทุน การจัดเก็บภาษี และคำจำกัดความทางด้านกฎหมายถูกหยิบยกขึ้นมากลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอีกครั้ง
ที่มา : ลิงก์