เว็บไซต์ bitcoinmagazine.com ได้เผยแพร่บทความแสดงความคิดว่า ‘บิทคอยน์จะสามารถแก้ปัญหาสำหรับการจัดเก็บมูลค่าได้อย่างไร?” โดย MIND/MATTER
MIND/MATTER ได้เปรียบเทียบระหว่างเครื่องมือในการรักษามูลค่าต่าง ๆ กับบิทคอยน์ โดยเริ่มจากทองคำที่เขากล่าวว่าเป็นสินทรัพย์ที่ล้มเหลวในการจัดเก็บมูลค่า เนื่องจากคุณสมบัติทางกายภาพของทองคำ
“แม้ทองคำจะสามารถรักษาปริมาณเงินอย่างแคบ (M1) ได้ แต่มันไม่สามารถเก็บมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ได้ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากคุณสมบัติทางกายภาพของทองคำซึ่งทำให้เป็นการเก็บมูลค่าที่ไม่ดี การขาดอุปทานที่ตรวจสอบได้ง่าย ไม่สามารถขายได้ และมีลักษณะแบบรวมศูนย์ ทำให้ทองคำไม่เหมาะสำหรับการจัดเก็บมูลค่า”
ต่อจากนั้น บทความดังกล่าวได้พูดถึงตลาดตราสารหนี้ว่าเป็นตัวเก็บมูลค่าที่สามารถใช้งานได้ จนกระทั่งมันเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยแบบทั่วไป (nominal yields) เข้าใกล้ศูนย์ และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (real yields) ติดลบ
โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสามารถคำนวณได้จากการนำอัตราดอกเบี้ยแบบทั่วไปลบกับอัตราเงินเฟ้อของสกุลเงินในตราสารนั้น ๆ
“ตราสารหนี้ไม่สามารถก้าวตามอัตราเงินเฟ้อได้ มันจึงกลายเป็นเครื่องมือการจัดเก็บมูลค่าที่ล้มเหลว”
ขณะที่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อสังหาริมทรัพย์สามารถตอบสนองวัตถุประสงค์ในการเป็นสินทรัพย์สำหรับการจัดเก็บมูลค่าได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่เหมาะสำหรับที่จะเป็นตัวเก็บมูลค่าในระยะยาวเนื่องจากต้องการพึ่งพานโยบายการเงิน การเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ และความสามารถในการซื้อขายที่ต้องใช้เวลานาน
“กลุ่มคนรุ่น Baby Boomers ในสหรัฐฯ ถือครองอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ไว้ ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่มีเงินมากพอจะซื้อขายบ้านเหล่านี้ที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์”
MIND/MATTER ได้พูดถึงบิทคอยน์ว่ามันสามารถเข้ามาแก้ปัญหาในการเป็นตัวเก็บมูลค่าได้ ด้วยลักษณะที่มีการกระจายศูนย์มากกว่าทองคำ ทำให้มันมีโอกาสน้อยกว่าที่จะถูกครอบงำ ขณะที่เมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่สูญเสียมูลค่าที่แท้จริงมาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ บิทคอยน์จึงสามารถแก้ปัญหาการเป็นตัวเก็บมูลค่าได้ดีกว่าตราสารหนี้และสินทรัพย์อื่น ๆ