Fidelity หนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งกับ Bitcoin Bull อย่างเต็มตัว โดย Jurrien Timmer ผู้อำนวยการ Global Macro ที่ Fidelity ได้คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจทำฐานราคาได้สูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์ต่อ BTC ภายในปี 2581
Timmer รวมโมเดลหุ้นกับโฟลว์ในแผนภูมิเดียวพร้อมกับโมเดลอุปสงค์ของเขาเองดังที่แสดงด้านบน
ในมุมมองโมเดลอุปสงค์ของเขาจะเห็นได้ว่า จากกฎของ Metcalfe ถือได้ว่าเมื่อจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง มูลค่าของเครือข่าย (หรือโดยการอนุมานราคาบิทคอยน์) จะเพิ่มขึ้นในทางเรขาคณิต
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือมูลค่าของบิทคอยน์ ควรเติบโตเร็วกว่าเครือข่ายของผู้ซื้อ ผู้ขาย การแลกเปลี่ยน ATM และผู้ค้าปลีกที่เข้าร่วม โดยในเวลานี้รวมถึง AT&T, มูลนิธิ Wikimedia, Dallas Mavericks, บริษัทประกัน, ธนาคาร และธุรกิจขนาดเล็ก
โมเดลอุปสงค์ของเขาเติบโตอย่างช้า ๆ จนถึงประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 ในขณะที่ราคาจะกลับมาเพิ่มขึ้นเร็วขึ้นทุกครั้งที่ราคาลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งในโมเดลนี้จะทำให้บิทคอยน์มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านดอลลาร์ถึง 10 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573
อีกทั้งเขายังมองเพิ่มเติมอีกว่ายิ่งจำนวนปีเพิ่มมากขึ้นความห่างของราคาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยเขาอ้างว่าหากลงทุนหุ้นด้วยเงิน 1 ดอลลาร์ในปี 2243 ตอนนี้จะมีมูลค่าเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากมูลค่าของดอลลาร์เปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น
การคาดการณ์ราคา Bitcoin
ในอีก 20 ปีข้างหน้าอาจเป็นไปได้ว่าราคาอาจจะไปถึง 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่ดีเพราะ 1 ล้านดอลลาร์ในขณะนี้ถือเป็นเงินที่มีจำนวนมากเพราะบ้านยังคงมีราคา 20,000-50,000 ดอลลาร์ แต่หากบ้านอาจจะมีราคาแพงกว่านี้ในอนาคตก็ได้
ทุกวันนี้บริษัทต่าง ๆ ต่างมีมูลค่าในตลาด 1 ล้านล้านดอลลาร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นในระยะ 20 ปีอาจจะเห็นบิทคอยน์ราคา 1 พันล้านดอลลาร์จริง ๆ ก็ได้ หากเทียบกับ Apple ที่มีมูลค่าถึง 1 พันล้านล้านดอลลาร์ได้มันไม่ง่ายกว่าหรอที่จะเห็นบิทคอยน์มีมูลค่าถึงสิบล้านล้านดอลลาร์
แต่การคาดการณ์นี้ก็ถูกมองข้ามไป ถึงแม้ว่าราคาบิทคอยน์จะลดลงมาครึ่งหนึ่งในช่วงที่ผ่านมาแล้วก็ตาม ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างอุปทานและอุปสงค์ที่โตขึ้น 10 เท่า
ทั้งนี้ราคาบิทคอยน์และ Fiat ต่าง ๆ ดูเหมือนจะค่อยเป็นค่อยไปจนไม่สามารถสังเกตุเห็นอย่างแน่ชัดได้ในขณะนี้
อย่างไรก็ตามบางที Bitcoin อาจจะเป็นไปตามการคาดการณ์หรือไม่ก็ได้ในอนาคต แต่จากการที่หลายประเทศเริ่มยอมรับบิทคอยน์มากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทได้ร่วมเข้ามาลงทุนกับบิทคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซี่มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ Bitcoin เป็นไปตามคำคาดการณ์ของ Timmer ก็เป็นได้