ปานามาได้ยื่นเสนอร่างกฎหมายใหม่ เพื่อปูทางให้ Bitcoin และ Cryptocurrency อื่นๆ กลายมาเป็นตัวเลือกในการชำระเงินของประเทศ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อดีของ Crypto ว่ามีประสิทธิภาพ, รวดเร็ว, และมีค่าธรรมเนียมราคาถูกสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เอลซัลวาดอร์ได้ประกาศ Bitcoin กลายเป็นสกุลเงินที่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศในช่วงเมื่อวานที่ผ่านมา นี่แสดงให้ถึงที่จุดยืนของปานามาที่มีต่อ Bitcoin
โดยเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา นาย Gabriel Silva หนึ่งในสมาชิกสภาของปานามาได้ออกมาประกาศผ่าน Twitter ของเขาว่า ข้อเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นการประกาศอิสรภาพสำหรับการเปิดใช้งานคริปโตภายในประเทศ
อ้างอิงตามคำพูดของนาย Gabriel Silva ข้อเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ได้ถูกจัดเตรียมโดยหลากหลายภาคส่วน ทั้งชาวปานามา, ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มอุตสาหกรรม และเทคโนโลยี พร้อมกับระบุว่าร่างกฎหมายดังกล่าวก็ยังสอดคล้องกับนโยบายที่กำหนดโดย Financial Action Task Force (FATF) ด้วย และจะเป็นการเปิดให้ประเทศเข้าสู่โลกของคริปโทเคอร์เรนซี, บล็อกเชน และอินเทอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้เขากล่าวเสริมด้วยว่า ข้อเสนอร่างกฎหมายใหม่จะช่วยสร้างโอกาสในการทำงานมากมายให้กับปานามาและทำให้รัฐบาลปานามามีความโปร่งใสมากขึ้น
โดยข้อเสนอร่างกฎหมายใหม่นี้ จะเป็นการสนับสนุนนวัตกรรมใหม่ ๆ ขยายข้อจำกัดการให้บริการทางการเงินให้สูงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งระบุว่า Bitcoin นั้นเป็นทางเลือกในการชำระเงินที่สามารถใช้ได้ทั้งในการดำเนินงานของภาครัฐ และเอกชน
สำหรับเหตุผลเบื้องหลังที่ได้เลือกเอาคริปโตมาเป็นทางเลือกในการชำระเงินนั้นก็เพราะว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว, และมีต้นทุนค่าธรรมเนียมถูก ซึ่งเหมาะสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
แม้ว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะดูเหมือนว่าเป็นการเดินตามรอยเท้าของเอลซัลวาดอร์ในการเสนอร่างกฎหมายคริปโต แต่ทั้งนี้ข้อเสนอปานามาจะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย เนื่องจากข้อเสนอร่างกฎหมายใหม่นี้จะมุ่งเน้นในเรื่องของการให้อิสระภาพในการใช้งานเท่านั้น ไม่ได้กำหนดให้เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด