เม็ดเงินจำนวนนับล้านล้านดอลลาร์อาจหลั่งไหลเข้าสู่ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ ( DeFi) หากธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 100 แห่งของโลกหันมาลงทุนใน DeFi อ้างอิงตามรายงานจากบริษัทวิจัยด้านบล็อกเชน Blockdata
DeFi เป็นบริการทางการเงินที่สามารถดำเนินการผ่านบล็อกเชนได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือโบรคเกอร์ และมีการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในช่วงปีที่ผ่านมา จากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน Chainalysis เปิดเผยว่า การนำเทคโนโลยี DeFi มาใช้นั้นได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ โดยธุรกรรมของสถาบันรายใหญ่ที่มีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60% ของธุรกรรม DeFi ทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
DeFi Llama ระบุว่า ในขณะนี้โปรโตคอล DeFi มีสินทรัพย์มูลค่ากว่า 178,000 ล้านดอลลาร์ที่ถูกล็อกไว้และนักลงทุนสถาบันต่างตระหนักดีว่า พวกเขาไม่สามารถทนเพิกเฉยต่อผลตอบแทนที่น่าดึงดูดจาก DeFi ได้
ด้วยธนาคารชั้นนำของโลก 55 จาก 100 แห่ง ซึ่งมีสินทรัพย์มูลค่า 94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และบางส่วนได้มีการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่แล้ว ดังนั้นมันพอจะมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารหรือสถาบันเหล่านี้ จะมองหาวิธีก้าวเข้ามาสู่ DeFi อ้างอิงตามรายงานของนาย Jonathan Knegtel ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการทั่วไปของ Blockdata
“หากธนาคารรายใหญ่หนึ่งหรือสองแห่งค้นพบวิธีที่พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์จาก DeFi พวกเขาก็จะไม่ลังเลที่จะจัดสรรเงินลงทุนอย่างน้อย 1% กับพวกมัน เพื่อไม่ให้ตัวเองถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลัง” นาย Knegtel กล่าวเสริมด้วยว่า “1% ของ 94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นี้จะถือเป็นสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น 0.94 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในระบบนิเวศ DeFi ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของมูลค่าตลาดของคริปโตในปัจจุบัน”
“ไม่ว่าโลกการเงินแบบดั้งเดิมจะเป็นอย่างไร DeFi ก็มีโลกใบนั้นอยู่ในเวอร์ชันคู่ขนาน ทั้งการให้สินเชื่อ การค้าขาย อนุพันธ์ การบริหารสินทรัพย์ ประกันภัย และอื่นๆ” คุณ มุขยา พานิช หัวหน้าฝ่ายกิจบริหารด้านการลงทุนของ SCB 10X กล่าว “สิ่งนี้จะเป็นการบ่อนทำลายธนาคารและสถาบันการเงินอย่างสมบูรณ์ในอนาคต ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมธนาคารเพื่อการลงทุน, เรียนรู้เกี่ยวกับ DeFi, หาพันธมิตรที่เกี่ยวข้องและเชื่อมต่อ DeFi เข้ากับโลกการเงินแบบดั้งเดิม”