ดูเหมือนว่าความต้องการ Crypto ที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน จะเป็นผลมาจากความกังวลในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่ล่าสุดเพิ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 13 ปี ที่ระดับ 5.4%
นอกเหนือจากเรื่องอัตราเงินเฟ้อแล้ว หนี้ของสหรัฐกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ตามบทความล่าสุดที่เขียนโดยนาย Avik Roy เขาได้ประเมินขอบเขตหนี้สหรัฐฯ และอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมการนำ Bitcoin มาใช้ถึงสามารถเป็นทางออกให้กับปัญหาเหล่านี้ได้
“เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า Bitcoin ไม่ได้เป็นแค่กระแสที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่ยังเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อโลกการเงินโลกในอนาคตอีกด้วย”
นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า พันธบัตรรัฐบาลที่ให้ดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบันจะเป็น “ปัญหาทบต้น” ของปัจจัยพื้นฐานทางการเงินและการเงินของสหรัฐฯ
“ถ้า Bitcoin สามารถแข่งขันกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯในฐานะตัวเก็บความมั่งคั่งชั้นนำของโลกได้ นั่นจะถือเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เพราะมันเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของเศรษฐกิจในโลกทั้งหมด”
จากที่กล่าวมาข้างต้น Roy พยายามชี้ให้ว่านี่เป็น “โอกาสเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ” ของรัฐบาลสหรัฐฯในการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยการยอมรับ Bitcoin ตามที่เขาคาดการณ์ในอีก 10 ถึง 20 ปีข้างหน้า สภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้นของ Bitcoin จะสามารถใช้แทนที่เงินทุนสำรองในคลังสหรัฐฯ ได้ และนั้นหมายความว่าอเมริกาจะสามารถรักษา “ความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจ” เอาไว้ได้
“ข่าวดีก็คือชาวอเมริกันไม่ได้ถูกลิขิตให้จมลงไปพร้อมกับเรือของ Fed อีกต่อไป”