เป็นเวลากว่า 150 วันแล้วที่ประเทศจีนห้ามการขุด Bitcoin (BTC) และห้ามการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินของบิตคอยน์ โดยเมื่อห้าเดือนที่แล้วจีนได้สร้างความตื่นตระหนกอย่างมากแต่จากการเพิ่มนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นปรปักษ์ต่ออุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่เป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกับการ “แบน” ทุกครั้งก่อนหน้านั้น ทำให้การเคลื่อนไหวของจีนต่อนักขุดคริปโตเกิดความปั่นป่วนและส่งผลต่อราคาในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่นักขุดปิดตัวลงและย้ายออกจากประเทศจีนส่งผลให้อัตราแฮชบนเครือข่าย Bitcoin ลดลง 50% แต่ภายหลังดูเหมือนว่าจะได้มีการปรับตัวอย่างช้า ๆ ในเดือนถัดมา
อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูอัตราแฮชได้เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ภายใต้การแบนของประเทศจีน อีกทั้งในขณะนี้เครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยของคริปโตได้ลบผลกระทบจากประเทศจีนออกไปแล้ว ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของราคา BTC ที่แสดงแนวโน้มอย่างชัดเจนว่าไม่มี FUD จำนวนใดที่สามารถทำให้ราคา Bitcoin ลดลงได้แม้ว่าจีนจะทำการประกาศแบนอย่างต่อเนื่องในหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม
นักวิเคราะห์ Willy Woo สรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนนี้ว่า “ตอนนี้เครือข่ายมีการกระจายอำนาจมากกว่าที่เคย และราคาก็เพิ่มขึ้นกว่า 50%”
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของ anti-Bitcoin ในปักกิ่งจะได้นำไปสู่การดันราคาของบิตคอยน์อย่างรุนแรงทั้งที่ควรจะเป็นการลดลง ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่านี่ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันกับการแบนของจีนมากนักแต่ยังส่งผลเชิงบวกอีกด้วย
Woo ได้เห็นข้อดีที่เป็นไปได้จากการห้ามทำเหมืองก่อนที่ BTC/USD จะเริ่มฟื้นตัว และเรียกการกระทำของจีนว่า “เสียสละ” ทั้งนี้พฤติกรรมการขุดในปัจจุบันตอกย้ำมุมมองระยะยาวของชุมชนคริปโตตั้งแต่จีนลาออก
แม้ว่ากระแสการเงินจะไหลออกของผู้ขุดยังคงเชื่อมั่นว่าราคาของ BTC จะใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่เงินที่ได้จากการขุดของพวกเขาอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บนเครือข่าย CryptoQuant แสดงให้เห็น
อย่างไรก็ตามทั้งนักขุดและผู้ถือครองระยะยาวต่างปฏิเสธที่จะขายที่ระดับปัจจุบันท่ามกลางความคาดหมายว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่และจะพุ่งสูงถึง 300,000 ดอลลาร์สำหรับ BTC/USD