แม้พรรคการเมืองเกาหลีใต้ที่ปกครองอยู่ในปัจจุบันจะมีการชะลอการเก็บภาษี crypto 20% ไปเป็นวันที่ 1 มกราคา 2022 แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ารัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเกาหลีเชื่อว่าควรทำเริ่มทำตามแผนที่วางไว้ได้แล้ว
การเก็บภาษีจาก cryptocurrency อาจเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ตลาดคริปโตคาดว่าจะใหญ่เป็นอันดับสามของโลกตามมูลค่าราคาตลาด โดยมีแผนของประเทศที่จะเก็บภาษี 20% จากรายได้จากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่เริ่มในปีหน้าส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากไม่พอใจเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ฝ่ายนิติบัญญัติและแม้แต่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงคนเดียวก็ผลักดันกฎหมายภาษีให้ล่าช้าออกไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ยืนหยัดตามแผนเดิมของเขาตลอดเวลา
ในเดือนมกราคมของปีนี้ กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของเกาหลีใต้ได้ประกาศแก้ไขกฎหมายภาษีเงินได้ ซึ่งรวมถึงนักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวจะเก็บสำหรับคนที่มีกำไรเกิน 2.5 ล้านวอนเกาหลีหรือประมาณ 2,120 ล้าน ดอลลาร์ แต่นักลงทุนจำนวนมากมีปัญหาในการยอมรับว่านักลงทุนคริปโตจะได้รับเกณฑ์ลดหย่อนภาษีที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับนักลงทุนในหุ้น
อย่างไรก็ตามฝ่ายนิติบัญญัติจากทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชาชนอนุรักษ์นิยมได้เสนอให้เลื่อนการเก็บภาษีคริปโตออกไปหนึ่งถึงสองปี แม้แต่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคประชาธิปัตย์ Lee Jae-myung ก็ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าเขาจะผลักดันให้การเก็บภาษีทรัพย์สินดิจิทัลล่าช้าลง
ในขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Hong Nam-ki กล่าวในวันนี้ที่รัฐสภาว่าการชะลอกฎหมายภาษีเงินได้จะทำลายความสอดคล้องภายในนโยบาย พร้อมย้ำอีกครั้งว่าการเก็บภาษี crypto ควรเป็นไปตามที่วางแผนไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าวว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลสามารถเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระดานเทรดได้ ซึ่งหากคุณรู้จักธุรกรรมแบบ peer-to-peer (P2P) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยนคริปโตเช่นกัน เป็นความยากที่จะเก็บภาษีจากธุรกรรมแบบ P2P ได้
ทั้งนี้ Oh Moon-sung ศาสตราจารย์ด้านบัญชีภาษีที่ Hanyang Women’s University กล่าว การเก็บภาษีอย่างรวดเร็วในสินทรัพย์ดิจิทัลจะนำไปสู่การหาวิธีหลบเลี่ยงภาษีในนักลงทุน
Oh กล่าวว่าปัญหาอีกประการหนึ่งอยู่ที่ความยากลำบากในการระบุราคาของโทเคน crypto เมื่อนักลงทุนเข้าซื้อกิจการครั้งแรกเพื่อเก็บดอกเบี้ยจากกำไร และหากมีการย้ายโทเคนจากกระดานเทรดหนึ่งไปยังอีกกระดานเทรดนึง และอีกหลายครั้งในกระดานเทรดที่แตกต่างกัน เป็นการยากมากที่จะระบุต้นทุนการได้มา
ท้ายที่สุดมีความจำเป็นที่จะต้องมีระบบที่ได้รับการแบ่งปันข้อมูลจากกระดานเทรดในแต่ละแห่งเกี่ยวกับราคาทุนที่เริ่มซื้อโทเคน และในตอนนี้ก็ยังคงไม่มีระบบที่พร้อมรองรับ