เสรีภาพเชิงลบ (หรือที่เรียกว่าเสรีนิยม) คือ อิสรภาพ ที่อาจยังถูกแทรกแซงจากเจ้านาย (กษัตริย์ ผู้มีอำนาจส่วนกลาง รัฐบาล ฯลฯ) แต่ตราบใดที่เจ้านายไม่เข้าไปยุ่ง นั่นจะถือว่าคุณเป็น “อิสระ”
เพื่อรักษาเสรีภาพเชิงลบ คุณจำเป็นต้องมีเสรีภาพในเชิงบวกด้วย และการกำหนดเสรีภาพเพียงด้านเดียวอาจไปสู่นำกับดักที่สามารถนำคำว่า ‘อิสระ’ มาใช้โดยพลการได้ เพื่อเอาชนะเหตุผลนี้ Quentin Skinner และ Philip Pettit จึงได้เสนอแนวความคิดทางเลือกที่สามของเสรีภาพ นั่นก็คือ เสรีภาพแบบที่ไม่ถูกปกครอง ซึ่งดูเหมือนว่าเหมาะเป็นคำนิยามให้กับ Bitcoin มากกว่า
ในระหว่างการสนทนาล่าสุดกับ Lex Fridman นาย Alex Gladstein ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Human Rights Foundation ได้กำหนดคำนิยามเสรีภาพของ Bitcoin ว่าเป็นการแบ่งขั้วระหว่างแนวคิดเกี่ยวกับเสรีในแง่ลบและแง่บวก การแบ่งขั้วนี้ได้รับการนำเสนอแนวคิดโดย Isaiah Berlin ต่อจาก Thomas Hobbes, John Locke และ Benjamin Constant โดย Gladstein ได้กำหนดให้คำพูดจากสื่อมวลชน การชุมนุม ความเชื่อ การมีส่วนร่วมในรัฐบาล ความเป็นส่วนตัว และทรัพย์สินเป็นเสรีภาพเชิงลบ ในทางกลับกันเสรีภาพเชิงบวกคือ สิทธิในการทำงาน ที่อยู่อาศัย และวันหยุดพักผ่อน
เสรีภาพคืออะไร ?
แนวคิดเชิงลบเกี่ยวกับเสรีภาพหมายถึง การไม่มีบางสิ่งบางอย่าง เช่น เสรีภาพที่ยังคงมีโอกาสถูกรบกวน จากการแทรกแซง, อุปสรรคหรือข้อจำกัดบางประการ แต่ในทางกลับกัน แนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับเสรีภาพหมายถึง การมีอยู่ของบางสิ่ง ในแง่นี้การปรากฏตัวของบางสิ่งหมายถึง พลังภายนอกที่สามารถมีอิทธิพลเหนือการควบคุม สิทธิในการควบคุมด้วยตนเอง การตัดสินใจด้วยตนเอง หรือการตระหนักรู้ในตนเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Berlin ได้กำหนดแนวความคิดเกี่ยวกับเสรีภาพทั้งสองประการ พร้อมให้คำถามที่คำตอบของมันจะนำไปสู่คำจำกัดความของแต่ละแนวคิด โดยในคำพูดของเขา แนวความคิดด้านลบของเสรีภาพคือ คำตอบของคำถามที่ว่า “ขอบเขตภายในที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลควรจะปล่อยให้ทำหรือเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้นั่นคืออะไร”
ในทางตรงกันข้าม แนวความคิดเชิงบวกพยายามตอบคำถามที่ว่า “อะไรหรือใครเป็นที่มาของการแทรกแซงที่สามารถกำหนดคนที่จะทำหรือเป็น”
BITCOIN เป็นเสรีภาพที่ไม่ถูกปกครอง
ในขณะเดียวกัน เสรีภาพของ Bitcoin ถูกกำหนดให้เห็นเด่นชัดว่าเป็น ‘เสรีภาพเชิงลบ’ คำจำกัดความโดยทั่วไปของ Bitcoin คือการเป็นอิสระจากอำนาจส่วนกลาง ดังนั้นคำจำกัดความในเสรีภาพของ Bitcoin จึงอยู่บนรากฐานที่ยึดเหนี่ยวโดยเสรีภาพแบบเสรีนิยมว่า ไม่มีการแทรกแซงหรืออุปสรรครบกวน (อย่างน้อยในช่วงเวลานี้) แต่ยังคงมีโอกาสที่จะถูกกฎหมาย หรือผู้ที่มีอำนาจในประเทศสั่งควบคุมหรือจำกัดได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามเสรีภาพของ Bitcoin นั่นจะไม่ใช่เสรีภาพแบบเสรีนิยมเพียงอย่างเดียวกัน เนื่องจากกลไกของระบบ Blockchain ที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และการกระจายอำนาจนั่นจะถือเป็นเสรีภาพเชิงบวก ที่ยังคงต้องการการมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลเครือข่าย เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สามารถกำหนดเสรีภาพของ Bitcoin ในแง่เดียวกันกับเสรีนิยม ได้ เพราะหากเราทำเช่นนั้นมันก็จะถือว่าเป็นการละทิ้งอีกครึ่งหนึ่งของเสรีภาพเชิงบวก
ที่มา : bitcoinmagazine