ศาลฎีกาเกาหลีใต้ได้ตัดข้อหายักยอกทรัพย์ของนักลงทุนชาวเกาหลีคนหนึ่งที่ได้รับ Bitcoin จากผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นการละเว้นการลงโทษทางอาญาเนื่องจากไม่มีความเข้าใจในพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับ cryptocurrency
ในเดือนมิถุนายน 2018 นักลงทุนชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งได้รับ Bitcoin จำนวน 199.999 BTC จากกระเป๋าเงินนิรนามในกรีซ โดยชาวเกาหลีได้โอนสินทรัพย์ออกจากกระเป๋าเงินกว่า 199.994 BTC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.25 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้นไปยังกระเป๋าเงินส่วนตัวเพื่อถอนออกมาเป็นค่าใช้จ่าย โดยอัยการได้ฟ้องร้องต่อนักลงทุนดังกล่าวในข้อหายักยอกทรัพย์เนื่องจากได้เปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นเงินเฟียตเรียบร้อยแล้วและเป็นการเรียกร้องตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการลงโทษที่รุนแรงขึ้นของเศรษฐกิจเฉพาะและอาชญากรรม
ตามคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่านักลงทุนดังกล่าวมีความผิดฐานยักยอกเงินแต่ไม่ใช่ยักยอกทรัพย์เนื่องจากกฎหมายไม่ได้นิยาม Bitcoin ว่าเป็นสินทรัพย์ โดยถูกตัดสินจำคุก 18 เดือนน อย่างไรก็ตามศาลฎีกาได้วินิจฉัยในเชิงตรงข้ามโดยกลับคำฟ้องร้องของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เนื่องจากติดสินว่าทั้งคู่ไม่ได้กระทำผิดและไม่พบความสัมพันธ์ทางธุรกรรมที่บ่งบอกในการยักยอก
แม้ว่าจะไม่มีความผิดฐานยักยอกเงิน แต่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่านักลงทุนเกาหลีใต้ได้รับเอา BTC ของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง โดย Bitcoin นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่พลเมืองเกาฟลี ทำให้กรณีนี้อาจเป็นตัวการสำคัญถึงระบบการกำกับดูแลในเกาหลีใต้ว่าจะเข้ามาควบคุมและนิยามสิ่งนี้ไปในทิศทางไหน
Kwon O-hoon พันธมิตรบริษัทกฎหมายได้ให้คำชี้แจงเพิ่มเติมว่า “หลักกฎหมายไม่ได้โอบรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ในยุคปัจจุบัน” ทั้งนี้ในประเทศเกาหลีนั้นยังไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ cryptocurrency อย่างจริงจัง แต่มีเพียงการต่อต้านการฟอกเงินเท่านั้น
เกาหลีใต้ยังคงจุดยืนที่คลุมเครือเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลโดยกำหนดว่าเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน รวมถึงเพิ่งตัดสินว่ากฎหมายของประเทศจะไม่ปกป้องสิทธิ์ในทรัพย์สินใด ๆ ในการขุด crypto
อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นเคสแรกที่ผู้ใช้งาน Bitcoin ในเกาหลีใต้ได้รับการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างผิดพลาดและไม่ถูกลงโทษทางอาญา ซึ่งในคดีแพ่งอาจถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและต้องให้นักลงทุนส่งเงินฝากที่ได้รับอย่างไม่ถูกต้องกลับคืนมา