หลังจากที่ไม่นานมานี้ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Zipmex ได้เสนอตัวเป็นกระบอกเสียงแทนนักลงทุนในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลประเทศไทย ก็ได้มี CEO ของ Bitkub เข้ามาเสนอเป็นตัวแทนอีกหนึ่งรายที่พร้อมเข้าไปพูดคุยกับกรมสรรพากร
โดยท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา CEO ของ Bitkub ได้โพสข้อความผ่าน Facebook และแบบฟอร์มสำหรับขอข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์สำหรับการวางนโยบายจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายสินทรัย์ดิจิทัล โดยนักลงทุนและผู้ที่สนใจจะเสนอแนะสามารถกรอกเอกสารได้ที่นี่ โดยมีข้อความว่า
“ผมและทีมงานได้สร้างแบบฟอร์มรับความคิดเห็นขึ้นมาตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ สามารถกรอกความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาได้เลยนะครับ ผมและทีมงานจะนำข้อเสนอแนะจากทุกท่านเพื่อที่จะเป็นตัวแทนไปหารือแนวทางร่วมกับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไปครับ”
โดยก่อนหน้านี้หลังจากที่มีข่าวการเคลื่อนไหวของนายเอกลาภในการเป็นกระบอกเสียงแทนชุมชนคริปโตก็ได้มีนักลงทุนหลายรายไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหวที่ล่าช้าของกระดานเทรดอันดับหนึ่งของประเทศไทยในชุมชน แต่ความเป็นจริงแล้วนายจิรายุสเคยได้กล่าวและเข้าหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
จากความคิดเห็นของผู้ใช้านเฟสบุ๊คในชุมชนคริปโตจำนวนมากได้แสดงถึงความคิดเห็นต่อการเก็บภาษีภายใต้โพสต์ CEO ของ Bitkub ดังนี้
“ภาษี ควรนับจาก เงินเข้า เงินออก รายปี หัก 2.5% สำหรับกำไร”
“Exchange ที่ถูกกฏหมายในประเทศไทย ควรรวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ประกอบการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัลและโทเคน แล้วเป็นผู้ที่เข้าไปหารือกับรัฐบาลอย่างเป็นกลุ่มใหญ่ เพราะจะมีพลังหารือต่อรองกับภาครัฐอย่างมีเหตุผล อย่าต่างคนต่างทำดีกว่าครับ พลังมันน้อย ส่วนจะมีสัดส่วนใรการคิดคำนวณภาษี ก็ต้องหารืออย่างสร้างสรรกับรัฐบาล เพื่อประโยชน์กับทุกฝ่ายทั้งในปัจจุบันและอนาคตครับ 1.5 , 2.5 หรือ 5% ก็เป็นแนวทางทีดีทั้งนั้น นักลงทุนทุกคนอยากทำให้มันถูกต้องอยู่แล้วครับ”
อย่างไรก็ตามนี่ถือเป็นการเข้าหารือระหว่างผู้บริหารเว็บกระดานเทรดยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยต่อกรมสรรพากรสำหรับแนวทางและความชัดเจนในการจัดเก็บภาษีที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อนักลงทุนคริปโตจำนวนมาก