นับตั้งแต่ก่อตั้ง Bitcoin (BTC) ตั้งแต่ปี 2010 ก็ได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมองว่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลหลักนั้นเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้อย่างสมบูรณ์
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ข้อมูลได้อ้างอิงถึงดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ที่สูญเสียมูลค่าไปแล้วกว่า 97.58% เมื่อเทยบกับราคาของ Bitcoin ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมูลค่า 1 ดอลลาร์ในตอนนี้นั้นสามารถซื้อบิตคอยน์ได้เพียง 0.000023 BTC เท่านั้น
ดูเหมือนสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ Satoshi Nakamoto ได้คิดไว้ในอดีตว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นจะลดลงอันเนื่องมาจากการพิมพ์เงินอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลในตลอดหลายปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin นั้นถูกมองว่าเป็นสกุลเงินที่จะมาปลดแอกประชาชนจากเงินดอลลาร์ที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายและถูกทดสอบระดับองค์กรมาแล้ว อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อได้ลดมูลค่าเงินดอลลาร์ไปแล้วกว่า 85% ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
ในทางตรงข้ามกันมูลค่าของ Bitcoin นั้นยังคงค่อนข้างสูง แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะได้รับสกุลเงินดิจิทัลนี้ไปแล้วแต่นักลงทุนก็ยังคงเลือกที่จะซื้อเศษส่วนของสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกนี้เพิ่มขึ้นอีกแม้ว่าจะราคาสูงก็ตาม
$1 ซื้อ satoshi ได้น้อยกว่า 75%
ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังอ่อนค่าลงปริมาณของ satoshi ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินดอลลาร์นั้นก็ลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งแปรผันตามการเพิ่มขึ้นของมูลค่า Bitcoin
โดยล่าสุดนั้นจำนวน 1 ดอลลาร์สามารถซื้อ satoshi ได้จำนวนจาก 10,656 เป็น 2,638 satoshi ซึ่งลดลงกว่า 75.24% แม้ว่าช่วงตลาดจะผันผวนอย่างมากแต่จำนวน satoshi ที่ซื้อได้ด้วยเงินดอลลาร์ก็ยังแปรผันตามราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นกว่า 300% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
การวิเคราะห์ราคา Bitcoin
ปัจจุบัน BTC ซื้อขายที่ 44,225 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.95% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และ1.84% ใน 7 ที่แล้ว ตามข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตามมูลค่ารวมของ crypto กลับมาสูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้งเนื่องจาก Bitcoin สามารถทำราคาพุ่งสูงเหนือกว่า 44,000 ดอลลาร์ได้ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา