ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่นักเทรดชาวไทยหลายคนกำลังจับตาดูกันอย่างชิด สำหรับอีเว้นท์ใหญ่ที่ทางเว็บเทรดอันดับต้น ๆ ของไทยอย่าง Bitazza ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะมีการลิสต์เหรียญ BTZ Token ในวันนี้เป็นวันแรก เวลา 2 ทุ่ม 2 นาที
อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีนักลงทุนชาวไทยอีกหลายคนที่ยังไม่รู้เกี่ยวกับที่มาที่ไปของเหรียญ BTZ token ว่าจะสามารถใช้ได้อะไรได้บ้าง และมีเป้าหมายดำเนินงานในอนาคตอย่างไร ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเหรียญ BTZ token กันก่อนที่จะไปลงทุนซื้อเหรียญในตลาด
BTZ คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
BTZ เป็น Utility Token (ERC-20) ของทาง Bitazza ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานและผู้ถือครองในระบบนิเวศของ Bitazza เช่น
- Fee Discount : ใช้ในการลดค่าธรรมเนียมซึ่งจะลดได้สูงสุดถึง 75% เมื่อใช้ BTZ จ่ายเป็นค่าธรรมเนียม
- Bitazza Levels : สะสม BTZ เพื่อเลื่อนระดับสมาชิกโดยแต่ละระดับจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่น การได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น
- Staking : การฝาก BTZ เพื่อรับผลตอบแทนเป็น BTZ เพิ่มเติมตามระยะเวลาที่ฝาก สูงสุด 40% ต่อปี
- Rewards : ใช้ BTZ เพื่อแลกรางวัลและบริการพิเศษจากทาง Bitazza และพาร์ทเนอร์
- Governance : สิทธิ์ออกเสียงเพื่อการปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เช่น การเพิ่มเหรียญหรือคู่เทรดในแพลตฟอร์ม โดยจำนวนสิทธิ์ในการออกเสียงจะขึ้นอยู่กับจำนวน BTZ ที่เราถือ
และในปีนี้จะมีการฝาก Staking, การ์ด อีคอมเมิร์ซ, และ Freedom wallet มาเพิ่มให้เหรียญมีกรณีการใช้งานได้กันอย่างมีประโยชน์กันเพิ่มอีกด้วย
ปรับเพิ่มปริมาณเหรียญ BTZ
โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Bitazza พึ่งประกาศปรับอุปทานเหรียญ BTZ Token จาก 300 ล้านโทเค็นเป็น 3,000 ล้านโทเค็น (เพิ่มขึ้น 10 เท่า) โดยใช้วิธี Token Split เหมือน Stock Split ในตลาดหุ้น ซึ่ง Bitazza เชื่อว่าเป็นหลักจิตวิทยาในการแบ่งเหรียญให้กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ จะส่งผลดีต่อพื้นฐานของเหรียญในระยะยาว แต่ถึงแม้ว่า อุปทานเหรียญจะถูกปรับเพิ่มขึ้น ในท้ายที่สุดแล้วจำนวนเหรียญที่นักลงทุนถือและมูลค่าตลาดของเหรียญก็ยังคงเป็น 33.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่าเดิม พูดง่าย ๆ ก็เมื่อทำการ Split เหรียญแล้ว ผู้ที่ถือเหรียญก็จะได้รับเหรียญเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่ถือครองอยู่นั่นเอง
Bitazza ตั้งเป้าจะขยายไปสู่ตลาดสากล
Bitazza มีความตั้งใจจะขยายสู่ต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย และกำลังเฟ้นหาพาร์ทเนอร์เพื่อเข้ามาช่วยเร่งกระบวนการเติบโตนี้โดยในปัจจุบัน Bitazza เพิ่งได้รับใบอนุญาตจากประเทศศรีลังกาในการเปิดให้บริการเป็นนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดระดับโลกอื่น ๆ อย่าง ประเทศออสเตรเลีย และประเทศในทวีปยุโรปในอนาคต ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเอง ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตอื่น ๆ นอกจากนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย
ทำไม BTZ ถึงใช้เวลานานในกว่าจะเปิดเทรด
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าก็เห็นเหรียญ BTZ มาตั้งแต่ปี 2018 แต่ทำไมเพิ่งจะมาเปิดเทรด สำหรับคำถามนี้ทางเว็บเทรดเปิดเผยว่าตอนนี้ตลาดมีเหรียญ BTZ token หมุนเวียนในระบบจำนวน 415 ล้านเหรียญ ซึ่งความตั้งใจของ Bitazza นั้นอยากให้ BTZ ไปถึงมือคนเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับเหรียญได้มากที่สุดก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว มูลค่าที่แท้จริงจะเกิดขึ้นจากคอมมิวนิตี้ที่ร่วมกันใช้ประโยชน์
ดังนั้นเว็บเทรดจึงใช้เวลาไปกับการออกแบบอย่างเต็มที่ คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ นำบทเรียนจากเหรียญที่ปล่อยออกมาก่อนหน้า ประกอบกับการศึกษาวิจัยข้อมูลด้าน DeFi GameFi นำแนวคิดที่ดีที่สุดแล้วปรับใช้กับ BTZ token
BTZ Token เปิดเทรดกันเมื่อไหร่ ที่ไหน ?
วันที่ 22.02.2022 เวลา 20.02 นาที และจะเปิดขายที่ Bitazza Global
Bitazza Thailand กับ Bitazza Global ต่างกันอย่างไร?
Bitazza Thailand คือบริษัทไทยที่ได้รับการกำกับดูแลจาก กลต. ใบอนุญาตนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล Bittazza จึงสร้างกิจการที่ไทยเพื่อเปิดให้บริการลูกค้าคนไทย แล้วจึงขยายกิจการสู่ตลาดสากล Bitazza Global ที่เป็นศูนย์กลางการให้บริการในระดับสากล เพื่อเปิดให้บริการลูกค้าต่างชาติที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย
หลังจากเปิดเทรด BTZ บน Bitazza Global แล้วยังให้สะสม BTZ ฟรีอยู่ไหม ?
แน่นอนว่า หลังจากที่ BTZ Token เริ่มเปิดให้เทรดที่ Bitazza Global แล้ว จะไม่มีการสะสมฟรีให้กับผู้ใช้ของ Bitazza Thailand อีกต่อไป รวมไปถึงราคาของเหรียญก็จะเป็นไปตามกลไกตลาดอีกด้วย ที่สำคัญการโอนเหรียญคริปโตจาก Bitazza Thailand ไป Bitazza Global ยังสามารถทำได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ทำได้ทุกเหรียญ และใช้เวลาเพียงนิดเดียวอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจ BTZ Token จะเปิดให้เทรดกันที่ Bitazza Global ในเวลา 2 ทุ่มของวันนี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bitazza.com/