Nigel Green CEO ของ deVere Group เชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่สำคัญในการผลักดันให้ราคาของ BTC ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเขาเชื่อว่าราคาของ Bitcoin นั้นสามารถที่จะพุ่งไปถึงระดับ 50,000 ดอลลาร์ได้ภายในสิ้นเดือนนี้
แม้จะมีการรุกรานยูเครนของรัสเซียและความไม่แน่นอนด้านสันติภาพทั่วยุโรป แต่กระนั้นราคาของ bitcoin ก็ยังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของมูลค่า Bitcoin เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นผลมาจากการคว่ำบาตรทางการเงินของรัสเซียและการล่มสลายของเงินรูเบิล
เช่นเดียวกับ Nigel เขามีความเห็นว่า ความขัดแย้งทางทหารทำให้เกิด “ความโกลาหลทางการเงินครั้งใหญ่” บริษัท, บุคคล และหน่วยงานของรัฐต่างเริ่มมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม เขาอธิบายว่า :
“ในขณะที่ธนาคารเริ่มปิดตัวและเงินจากตู้ ATM กำลังจะหมดลง การคุกคามเงินออมส่วนบุคคลถูกนำไปใช้ในสงคราม และระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่สำคัญอย่าง SWIFT จะถูกใช้เป็นอาวุธ ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ กรณีของความเป็นไปได้ การกระจายอำนาจ ไร้พรมแดน และระบบการเงินที่ไม่สามารถยึดได้เริ่มกลายเป็นที่ประจักษ์”
Nigel คาดการณ์ว่า หากโลกตะวันตกยังคงกำหนดเพิ่มบทลงโทษให้กับรัสเซียราคา Bitcoin นั้นอาจพุ่งแตะ $50,000 ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตามเขากล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่เหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกจะพุ่งกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เหนือจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 70,000 ดอลลาร์
เป็นที่น่าสังเกตว่าคำคาดการณ์ของ CEO deVere Group นั้นค่อนข้างแม่นยำเมื่อพิจารณาจากคำคาดการณ์ของเขาก่อนหน้านี้ โดยเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว Nigel คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะสามารถ “พุ่งแตะหรือทำจุดสูงสุด” ใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 65,000 ดอลลาร์ได้ภายในช่วงสิ้นปี 2021
ที่มา : cryptopotato