เมื่อวันที่ 26 มีนาคม Luna Foundation Guard (LFG) มีการถือครอง Bitcoin อยู่เป็นจำนวนทั้งสิ้น 24,954.95 BTC และในช่วง 5 วันที่ผ่านมา กระเป๋าเงิน Bitcoin ของ LFG ได้เพิ่มการถือครอง Bitcoin เป็นจำนวนอีกกว่า 5,773.02 BTC
ในขณะที่เขียนรายงาน กระเป๋าเงินของ LFG ถือ Bitcoin อยู่ 30,727.97 Bitcoin หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ อิงตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน
LFG เพิ่มการถือครอง Bitcoin 5,773 BTC ภายใน 5 วัน
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา Luna Foundation Guard (LFG) ได้ซื้อ bitcoin เพื่อสะสมเป็นเงินทุนสำรองขององค์กร LFG องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในสิงคโปร์ ซึ่งอุทิศให้กับระบบนิเวศของ Terra (LUNA) มีเป้าหมายที่จะพัฒนา “ความยั่งยืนและความเสถียรภาพของอัลกอริธึมเหรียญ Stablecoins ของ Terra” โดยการใช้ Bitcoin เป็นหลักประกัน
เมื่อวันที่ 21 มีนาคมมีรายงานเกี่ยวกับผู้ก่อตั้ง Do Kwon ของ Terra ที่บอกใบ้เป็นนัย ๆ แล้วว่าจะทำการซื้อ BTC มูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการซื้อครั้งแรกของ LFG นั้นถูกจับตาดูโดยผู้สังเกตการณ์ onchain
เมื่อ 5 วันก่อนมีรายงานว่า LFG ได้ทำการซื้อ Bitcoin เพิ่มเป็นจำนวน 24,954.95 BTC หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ (อิงตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 26 มีนาคม) และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา LFG ก็ได้ซื้อ bitcoin เพิ่มอย่างต่อเนื่องคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,773.02 BTC ในช่วงระยะเวลาเพียงห้าวัน
การถือครอง Bitcoin ของ LFG เติบโตเพิ่มขึ้น 23.13% นับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และขณะนี้กระเป๋าเงินของ LFG ถือ Bitcoin อยู่เป็นจำนวนทั้งหมด 30,727.97 BTC คิดเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์และกลายเป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 29 ในปัจจุบัน
จำนวน BITCOIN ที่ LFG ถือครองใกล้แซง Tesla แล้ว
นอกเหนือจากการเลื่อนอันดับขึ้นมาเป็นกระเป๋าเงิน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดแล้ว เงินทุนสำรองของ LFG ก็ยังมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับกระเป๋า Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดของวาฬหลาย ๆ ใบในปัจจุบัน ตามข้อมูลจาก Bitcoin Treasuries แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าเงินของ LFG นั้นใหญ่กว่ากองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนหลายแห่ง และตอนนี้กระเป๋าเงิน Bitcoin ของ LFG มีขนาดใหญ่กว่ารัฐบาลซัลวาดอร์ซะอีก
ยิ่งไปกว่านั้นกระเป๋าเงินของ LFG ยังมีขนาดใหญ่กว่ากระเป๋าเงินที่ถือโดยบริษัทเอกชนทั้งหมด ซึ่งเป็นรองเป็นเพียง Microstrategy และ Tesla เท่านั้น โดยปัจจุบัน Tesla ถือครอง Bitcoin เป็นจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 42,902 BTC และนั้นหมายความว่า LFG ต้องซื้อ Bitcoin เพิ่มมากกว่า 12,174.03 BTC เพื่อให้มีการถือครองที่แซงหน้า Tesla
ที่มา : news.bitcoin