หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Bitkub แพลตฟอร์มเทรดเหรียญชั้นนำของประเทศไทย ก็ได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุดทางเพจ Bitkub Chain ได้ออกมาประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการอัพเกรด Erawan Hard Fork อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนระบบฉันทามติไปสู่ POSA อย่างเต็มรูปแบบ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มีนาคมทาง Bitkub Chain ได้มีการจัดงาน “Bitkub Chain The NEXT Chapter” โดยภายในงานนี้ได้มีเซอร์ไพรส์ใหญ่มากมาย รวมถึงมีการประกาศสำคัญถึงกระบวนการอัพเกรด Erawan Hard Fork โปรเจกต์ที่จะยกระดับวงการบล็อกเชนไปอีกขั้น เพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกอนาคต
โดยกระบวนการอัพเกรด Erawan Hard Fork นั้น คุณภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ได้กล่าวอธิบายไว้ภายในงานว่า :
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะสามารถเพิ่มศักยภาพต่อผู้ใช้งาน พร้อมยกระดับ Bitkub Chain ให้ก้าวไปสู่การใช้งานระดับโลก รวมทั้ง Ecosystem ที่จะสนับสนุนให้ Bitkub Chain กลายเป็นบล็อคเชนที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย โดย Bitkub NEXT จะเปรียบเสมือนประตูเชื่อมผู้ใช้งานระหว่างโลกความจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน”
นอกจากนี้แล้ว Bitkub Chain ยังจะเปิดตัวเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมเป็น Node Validator ภายหลังจากเสร็จสิ้นการอัพเกรด Erawan Hard Fork ในวันนี้ด้วย ซึ่งทำให้ Bitkub Chain เติบโตยิ่งขึ้นไปในอนาคต
โดยมีรายชื่อ ดังนี้ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีพีซีเอส จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน), บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน), บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน, บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน), บริษัท ทีพีซีเอ็กซ์ จำกัด
บริษัท อินสเปค จำกัด,ไดมอนด์ ไฟแนนซ์, บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มัลติพลาย เทคโนโลยี จำกัด, บริษัท สมาร์ทคอนแทรค บล็อกเชน สตูดิโอ, บริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จํากัด, บริษัท เก็ทลิงส์ จำกัด, บริษัท เอ บี เอ็กซ์ จำกัด, บริษัท ซิคซ์ เนทเวิร์ค, บริษัท ฟิน สเตเบิ้ล จำกัด, บริษัท ชินเอ เซอร์วิส จำกัด, บริษัท ดิ๊ก ดิ๊ก จำกัด, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อาชว์ 2021 (ประเทศไทย) จำกัด
Erawan Hard Fork ได้มีการวางโร้ดแมพไว้อยู่ 3 เฟสด้วยกัน โดยเริ่มจากการเปลี่ยนจาก POA ไปเป็น POSA ก่อนจะเปลี่ยนไปสู่ POS ในลำดับต่อไป
และหลังจากนั้น Bitkub Chain มีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำธุรกรรม จากเดิมที่รองรับการทำธุรกรรมอยู่ที่ประมาณ 2,000 ต่อวินาที ก็จะเพิ่มเป็น 100,000 ธุรกรรมต่อวินาทีและจะเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ
โดยทั้งหมดทั้งมวลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจและผู้ใช้งาน สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายที่สุด แต่ทว่าเป้าหมายสำคัญหลัก ๆ นั่นคือการทำให้ Bitkub Chain เติบโตในระดับ Global ด้วยเหตุนี้ทางโปรเจกต์จึงต้องขยาย Ecosystem และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับเครือข่าย