รายงานหลายฉบับจากผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้ยืนยันว่า วิธีการใหม่ของกลุ่มอาชญากรตอนนี้กำลังมุ่งไปที่การขโมยโทรศัพท์ของนักลงทุนคริปโตเพื่อที่จะขโมยทรัพย์สินดิจิทัลของพวกเขา
นักเทรดคริปโตที่อาศัยอยู่ในลอนดอน กำลังตกอยู่ในเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินคริปโตของพวกเขาอีกครั้ง เนื่องจาก “การขโมยคริปโต” ตอนนี้กำลังเป็นที่แพร่ระบาด
จากรายงานข่าวของ Guardian พบว่า คนร้ายได้ตั้งเป้าไปที่นักลงทุนคริปโต โดยทางตำรวจได้เปิดเผยว่ามีเหยื่อจำนวนมากที่ถูกขโมยเงินคริปโต หลังจากที่โดนขโมยโทรศัพท์มือถือไป
ด้วยความจริงที่ว่าคริปโตนั้น เวลาทำธุรกรรมนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้ ซึ่งแตกต่างจากการโอนเงินผ่านธนาคาร ด้วยเหตุนี้ทำให้กลุ่มอาชญากรได้มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนคริปโต และได้ทำการขโมยโทรศัพทมือถือก่อนที่จะขโมยคริปโตต่ออีกทอด
ในรายงานฉบับหนึ่งได้เปิดเผยว่า เหยื่อได้พยายามสั่ง Uber โดยพวกโจรได้ทำการขู่เพื่อโทรศัพท์ของเหยื่อไปและคืนให้ก่อนที่เหยื่อจะพบว่า ETH มูลค่า 5,000 ปอนด์ (ประมาณ 2 แสนบาทไทย) ได้หายไปจากบัญชี Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของพวกเขา
ในขณะเดียวกันเหยื่อรายอื่น ๆ ได้บอกกับตำรวจว่าโทรศัพท์และบัตรของเขาถูกล้วงจากกระเป๋า ซึ่งภายหลังเขาค้นพบว่าคริปโตมูลค่าประมาณ 10,000 ปอนด์ (ประมาณ 4 แสนบาทไทย) ถูกขโมยจากบัญชี CryptoCom ของเหยื่อ โดยเหยื่ออ้างว่าได้เห็นโจรพิมพ์รหัสบัญชีของเหยื่ออยู่
ตำรวจอังกฤษได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม
Phil Ariss หัวหน้าทีม ด้านคริปโตสำหรับโครงการอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตของสภาหัวหน้าตำรวจแห่งประเทศอังกฤษกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีระบุอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อการรับมือที่หลากหลายมากขึ้น
Ariss ได้เตือนให้สาธารณชนระมัดระวังในการเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ เขากล่าวว่า “คุณจะไม่เดินไปตามถนนโดยถือธนบัตร 50 ปอนด์แล้วนับมัน คำกล่าวนี้ควรนำไปใช้กับผู้ที่ถือครองคริปโตด้วย”
David Gerard ผู้เขียน หนังสือ Attack on the 50 Foot Blockchain เขาได้เน้นย้ำว่า อาชญากรรมเหล่านี้กำลังเพิ่มขึ้นเนื่องจาก นักลงทุนบางคนไม่ได้มีวิธีการเก็บรักษาเงินคริปโตที่ดีและพวกเขาก็ไม่ได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่พวกเขาทำกับทรัพย์สินอื่น ๆ เช่นกันรวมถึงเงินสดด้วย