บริษัท Block ของ Jack Dorsey CEO ได้เปิดเผยความต้องการในการขยายบริษัทชำระเงินให้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในด้านดิจิทัล ซึ่งตัวเขายังคงเองมีความเชื่อมั่นในตัวเทคโนโลยีบล็อกเชน และ Bitcoin เป็นอย่างมาก และมองว่า BTC เป็นตัวเลือกหนึ่งเดียวที่เหมาะสมกับระบบเงินทางอินเตอร์เน็ต
ระบบนิเวศของบริษัท Block
เนื่องจากธุรกิจของ Block เติบโตขึ้นจนครอบคลุมเกือบทุกส่วนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ผู้บริหารของบริษัทกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียว
“เราไม่ใช่แค่บริษัทรับชำระเงินอีกต่อไป ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย”
เป็นที่น่าสังเกตว่าคำพูดดังกล่าวได้ถูกพูดขึ้นตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ในสมัยที่พึ่งเริ่มก่อตั้งบริษัท
CEO ของ Block เน้นย้ำว่า ธุรกิจคริปโตและการสตรีมเพลงควรถูกมองว่าเป็น “ระบบนิเวศ” นอกจากนี้ เขายังตั้งชี้ให้เห็นถึงความพยายามของบริษัทที่มุ่งเน้นในเรื่องของ Bitcoin ดังตัวอย่างบางส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Cash App ที่เหมือนกับธนาคาร ซึ่งสามารถเปิดให้ใช้การชำระเงินแบบ peer-to-peer และการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ได้
Bitcoin เป็นเงินทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
ตามรายงานของ CNBC พบว่า Dorsey ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับความล่าช้าในด้านการพัฒนา Bitcoin โดยกล่าวว่า “ความรอบคอบ” เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดเก็บเงินและการโอนเงิน
บริษัท Block ได้พยายามที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมคริปโต แน่นอนรวมถึงกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ Bitcoin, ระบบการขุด Bitcoin ที่สร้างขึ้นเอง, แหล่งข้อมูลแบบเปิด, ธุรกิจที่มุ่งเน้นนักพัฒนาที่เรียกว่า TBD และ Spiral (เดิมชื่อ Square crypto) เพื่อความก้าวหน้าในการใช้สินทรัพย์
ในช่วงขาขึ้นของตลาดคริปโต เหรียญ BTC เป็นเพียงเหรียญเดียวที่เป็นเหรียญหลัก
“อินเทอร์เน็ตต้องการสกุลเงินที่เป็นของตัวมันเอง และเมื่อพิจารณาถึงระบบนิเวศของเทคโนโลยีทั้งหมดเพื่อเติมเต็มบทบาทนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า bitcoin เป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียวในปัจจุบัน”
กำไรคือกุญแจสำคัญ
Amrita Ahuja CFO ของ Block กล่าวว่า อัตรากำไรเป็นตัวชี้วัดหลักที่สามารถบอกถึงการเติบโตของบริษัท โดย อัตรากำไรของ Block อยู่ที่ 34% โดยมี Cash App ที่ครอบคลุมถึง 12%
Ahuja ตั้งข้อสังเกตว่า Afterpay ซึ่งเป็นบริษัท Fintech ของออสเตรเลียที่ Block เพิ่งเข้าซื้อกิจการเมื่อต้นปีนี้ ด้วยข้อตกลงมูลค่ากว่า 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มว่า “อาจทำให้มีหนี้สินเพิ่มขึ้น”
อย่างไรก็ตอบ Dorsey ได้พิจารณาการเข้าซื้อกิจการธุรกิจสตรีมมิงเพลงของ Jay-Z แอปพลิเคชั่น Tidal ว่าเป็นเดิมพันที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ เพราะเขาเล็งเห็นว่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมโอกาสมหาศาลที่จะช่วยทำให้ศิลปินสร้างรายได้เช่นเดียวกับธุรกิจขนาดเล็ก