YES Token ผุดโปรเจกต์ “ยืมและให้ยืมสินทรัพย์ดิจิตอล” เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ถือครองคริปโต

“สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้”

ล่าสุดคริปโตเหรียญน้องใหม่ได้เตรียมจัดโปรเจกต์ “ยืมและให้ยืมสินทรัพย์ดิจิตอล” หรือถ้าจะให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นก็คือการ “ยืมเหรียญ” และ “ปล่อยกู้เหรียญ”

อย่างที่รู้จักกันมาพอสมควรแล้วว่า “YES Token” บนกระดานเทรด “ยืมมั้ยบล็อกเชน” เป็น Fintech ตัวแรกบน Bitkub Chain ที่จะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้วงการคริปโตไทย ด้วยการยกคอนเซ็ปต์ “ยืมและให้ยืมสินทรัพย์ดิจิตอล” มาใช้บน Blockchain ทำให้เครดิตสามารถซื้อขายได้

โดยโปรเจกต์ในครั้งนี้จะคล้าย ๆ กับการที่มีบัตรเครดิตนักศึกษาอยู่ในมือและสามารถนำเงินอนาคตไปวางไว่ก่อน ซึ่งสำหรับผู้ถือครองเหรียญ YES Token นั้น สามารถใช้ได้สูงสุดถึง 75% กันเลยทีเดียว อีกทั้งการถือเหรียญ YES จะสามารถทำกำไรได้อนาคตเมื่อราคาเหรียญมีมูลค่าสูงขึ้นอีกด้วย ถือว่าการถือเหรียญ YES Token นั้น วินวิน ๆ ทั้งการถือไว้เพื่อใช้ประโยชน์และถือไว้รอลุ้นกำไรด้วย

โดยการจัดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ทางเหรียญ YES Token ได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ เหรียญ YES เป็นมากกว่าแค่เหรียญที่มีไว้เพื่อเกร็งกำไร ซึ่งทางทีมงานได้ตั้งใจที่ ผู้ยืมในโปรเจกต์นี้สามารถที่จะยืมได้สะดวกในขณะเดียวกันเวลาที่ถึงเวลาคืนนั้นจะสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเดิม

ทางผู้ให้ยืมก็จะสามารถได้รับประโยชน์เช่นกันโดยเมื่อให้ให้ยืม นอกจากจะง่ายและยังสามารถนำคริปโตสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอได้ ด้านเทรดเดอร์เองก็ไม่น้อยหน้าสามารถที่เก็งกำไรเหรียญ YES และคริปโตที่ยืมได้พร้อมๆกัน โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าและยังสามารถ Short คริปโตในตลาดขาลงโดยนำคริปโตมาขายก่อนแล้วซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า ถือว่าตอบโจทย์ครบทุกด้านในการจัดทำโปรเจกต์ ยืมและให้ยืมสินทรัพย์ดิจิตอล นี้ขึ้นมา

ประโยชน์ของโปรเจกต์

• เปิดให้เช่าสินทรัพย์ดิจิตอลโดยนำเหรียญ YES มาเป็นหลักคำประกันได้
• เปิดให้ปล่อยเช่าสินทรัพย์ดิจิตอล
• เปิดให้ทำ Liquidity Pools บนแพลตฟอร์ม 6 คู่เหรียญ (KUB, BTC, ETH, DAI, USDT, USDC)
• การยืม NFT และสิ่งของในโลกจริง
• การแลกสิทธิ์ในร้านค้าที่ร่วมรายการ
• การโหวตเพื่อกำหนดแนวทางของแพลตฟอร์ม
• เปิดให้ Stake YES เพื่อรับผลตอบแทน เช่น โปรเจ็คกับ Wirtual x Under Armour ในการ Stake YES รับ NFT และรองเท้าของ  Under Armour

โดยทางทีมงานแอบกระซิบมาว่า อีกไม่นานมานี้จะมีโปรเจกต์อื่น ๆ ที่มาร่วมกับโปรเจกต์ในครั้งนี้อย่าง การปล่อยให้เช่า NFT,แคมเปญให้คนเข้ามาร่วมสนุกโดยทำร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆอีกมายมาก

การยืมใน Platform (ยืมไปขายนำเงินมาใช้ก่อน)

หลายคนอาจยังมีความสงสัยว่าโปรเจกต์นี้จะทำงานยังไง วันนี้ทางสยามบล็อกเชน จะนำตัวอย่างการใช้มาอธิบายเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น

กรณีที่ 1 : ยืมไปใช้จ่าย

นาย A มี YES Token อยู่ 1000 เหรียญ มูลค่า 40,000 บาท วันหนึ่งมีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินด่วน 10,000 บาท จึงทำให้นาย A ต้องนำเหรียญ YES ที่มีไปยืม USDT บนแพลตฟอร์มยืมมั้ยจำนวน 310 เหรียญ มูลค่า 10,000 บาท และใช้เหรียญ YES ในการค้ำประกัน

โดยนาย A สามารถนำ USDT ที่ยืมมานั้น ไปขายแล้วนำเงิน 10,000 บาท ออกมาใช้จ่ายก่อน และเมื่อเงินเดือนนออกแล้วจึงนำไปซื้อ USDT มาคืน เมื่อคืนในบนแพลตฟอร์มยืมมั้ยครบ 310 เหรียญแล้ว ก็จะสามารถได้เหรียญ YESที่เอาไปวางคืนมาได้

กรณีที่ 2 : ยืมไปช้อนซื้อเหรียญคริปโตในช่วงตลาดขาลง

นาย A มี YES Token อยู่ 1,000 เหรียญ มูลค่า 40,000 บาท วันหนึ่งตลาดคริปโตกลายเป็นสีเลือด นาย A จึงนำเหรียญ YES ที่มีไปยืม USDT บนแพลตฟอร์มยืมมั้ยจำนวน 310 เหรียญ มูลค่า 10,000 บาท เพื่อช้อนซื้อเหรียญคริปโตตัวอื่น 

เมื่อตลาดคริปโตกลับสู่สภาวะปกติ และนาย A ได้กำไรจากคริปโตที่ไปช้อนซื้อมา นาย A สามารถขายเพื่อเก็บกำไร นำส่วนหนึ่งมาซื้อ USDT จำนวน 310 เหรียญ มูลค่า 10,000 บาท เพื่อคืน และส่วนต่างกำไรอีกส่วนหนึ่งก็ยังสามารถเก็บไว้เพื่อลงทุนต่อ หากวันที่นำมาคืน เหรียญ YES ปรับตัวขึ้น เช่นกัน เท่ากับว่า นายตูน ได้กำไรจากเหรียญคริปโต 2 เหรียญ พร้อมๆกัน

มาฝั่งของคนที่ให้ยืมบ้าง ว่ามีการทำงานอย่างไร

การให้ยืมใน Platform

หากเทรดเดอร์คนไหนที่ถือเหรียญคริปโต KUB, BTC, ETH, DAI, USDT, USDC แต่ไม่ได้นำไปใช้ทำอะไรแค่เพียงถือครองไว้เฉย ๆ สามารถนำมาฝากเพื่อให้ยืมได้และรับดอกเบี้ยอย่างปลอดภัย

โดยผู้ให้ยืมสามารถฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไปยัง Rental Contracts ซึ่งเป็นส่วนสำหรับการให้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อผู้ยืม ทำการคืนสินทรัพย์ที่ยืม จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตรา 23 – 33% ต่อปี (อัตรามีการปรับตามสัดส่วนการยืมในระบบ แบบdemand supply) ผู้ให้ยืม จะได้รับผลตอบแทนในอัตรา 8 – 18% ต่อปี ส่วนต่าง 15% จะถูกส่งให้กับระบบโดยแบ่งเป็น 10% สำหรับการชดเชยกรณีไม่ชำระ และอีก 5% เป็นค่าดำเนินการ

อย่างไรก็ตามในช่วงเปิดตัวระบบ สินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดให้ยืมในระบบจะเป็นเหรียญ “KUSDT” และจะเปิดสกุลอื่น ๆ เพิ่มเติมในภายหลังตามความต้องการของผู้ใช้

สร้าง Passive income ด้วยการทำ Liquidity Pool

อีกหนึ่งรูปแบบของการลงทุนในโลก DeFi ที่น่าสนใจและถูกพูดถึงกันมากคงจะหนีไม่พ้นการทำ Liquidity Pool เป็นการสร้างผลตอบแทนจากการนำเหรียญที่เรามีไปฝากไว้ใน Liquidity Pool เพื่อสร้างผลตอบแทนผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากค่าธรรมเนียมที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนกันบน Liquidity Pool และสามารถเก็งกำไรจากการ ผันผวนของราคาคู่เหรียญที่เรานำไปวางไว้ใน Pool อีกด้วย

โดยผู้ที่สนใจสามารถไปจับจองและเป็นเจ้าของเหรียญ YES กันได้แล้วที่นี่

หมายเหตุ : เหรียญ YES นั้นแปลงมาจากคะแนนเครดิต และผู้ใช้งานจะได้รับเหรียญ YES จากการเข้ามามีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มการเทรด ยืมมั้ย โดยที่ยืมมั้ยกับพันธมิตรจะประเมินเครดิตของลูกค้า และออกเหรียญ YES ให้

วิธีประเมินเครดิต 

1. ใช้ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูล Social media

2. การจับจ่ายใช้สอย

3. ประวัติธุรกรรม ทั้งในบล็อกเชน และนอกบล็อกเชน

เหรียญ YES จะถูกใช้ประโยชน์ในมุมที่ต้องการพิจารณาความน่าเชื่อถือของบุคคล

1. การยืมสินทรัพย์ดิจิทัล

2. การยืม NFT และสิ่งของในโลกจริง

3. การแลกสิทธิ์ในร้านค้าที่ร่วมรายการ

4. การโหวตเพื่อกำหนดแนวทางของแพลตฟอร์ม