จากข้อมูลบนบล็อคเชนของ Bitcoin แสดงให้เห็นว่า เจ้ามือรายใหญ่บนเครือข่ายเริ่มใช้โอกาสในช่วงขาลงของตลาด เพื่อเก็บสะสม BTC เพิ่มมากขึ้น
ตามรายงาน Onchain-week ฉบับล่าสุด ของ Glassnode ตัวชี้วัดที่มีชื่อเรียกว่า “คะแนนแนวโน้มสะสม” (Accumulation Trend Score) นั้นปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.9 มาเป็นเวลาเกือบสองสัปดาห์แล้ว ตัวชี้วัดนี้สะท้อนถึงแนวโน้มการสะสมของนักลงทุน Bitcoin ในขณะเดียวกันตัวชี้วัดก็จะช่วยคัดกรองนักขุดและแพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ออกไป
เมื่อ Accumulation Trend Score เข้าใกล้ศูนย์ นั้นแสดงว่านักลงทุนกำลังกระจายการถือครองหรือหยุดการสะสม แต่กลับกันเมื่อตัวชี้วัดไต่ระดับขึ้นมาใกล้กับระดับ 1 สิ่งนี้แสดงว่านักลงทุนกำลังเริ่มสะสม BTC อย่างเอาเป็นเอาตาย
รายงานของ Glassnode ให้รายละเอียดว่า ปัจจุบันตัวชี้วัด“บ่งชี้ว่า เจ้ามือ Bitcoin บนเครือข่ายกำลังเพิ่มการถือครองของพวกเขา” เมื่อต้นปีนี้ Accumulation Trend Score อยู่ในช่วง “ระยะการสะสมอย่างไม่สม่ำเสมอ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในระดับต่ำ
แต่ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการล่มสลายระบบนิเวศ Terra ทำให้ราคาของ Bitcoin ร่วงลดลงต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามราคาเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทำให้ปัจจุบันคะแนนของตัวชี้วัดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.9 บ่งชี้ได้ว่า “นักลงทุนเริ่มมีการสะสมมากขึ้น”
ในอดีตที่ผ่านมา เจ้ามือได้มีแนวโน้มการสะสมที่แข็งแกร่งทั้งในช่วงขาขึ้น (ปี 2017, 2019 และ 2021) และในช่วงขาลง (ในเดือนพฤศจิกายน 2018 มีนาคม 2020 และธันวาคม 2021)
รายงานของ Glassnode ยังเผยรายละเอียดด้วยว่ามี เจ้ามือ Bitcoin สองกลุ่มที่มีส่วนร่วมในการสะสมเหรียญรอบนี้ กลุ่มแรกก็คือ ผู้ที่ถือเหรียญน้อยกว่า 100 BTC และกลุ่มสองคือ ผู้ที่ถือเหรียญมากกว่า 10,000 BTC รายงานแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ถือเหรียญน้อยกว่า 100 BTC มีการถือครองเพิ่มมากขึ้น หลังจากตลาดมีการปรับฐานครั้งล่าสุด
เจ้ามือที่ถือเหรียญมากกว่า 10,000 BTC ได้เพิ่มการถือครองเป็นจำนวนกว่า 46,269 BTC แม้ว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ล่มสลายของ Terra ทาง Luna Foundation Guard (LFG) จะเทขายเหรียญมากกว่า 80,000 BTC ก็ตาม
JPMorgan กล่าวว่า cryptocurrency ได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ธนาคารต้องการ นับตั้งแต่การปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาดคริปโต อันเป็นผลมาจากการล่มสลายของระบบนิเวศ Terra ที่ส่งผลกระทบต่อ การลงทุนทางเลือกในสิทรัพย์อื่น ๆ
สินทรัพย์ทางเลือกที่ควรจับตาดูก็คือ หุ้นและพันธบัตร สกุลเงินดิจิตอล อสังหาริมทรัพย์ ไพรเวทอิควิตี้ และหนี้ภาคเอกชน ที่ล้วนอยู่ภายใต้หมวดหมู่ที่ธนาคารต้องการ
ที่มา : cryptoglobe