นาย Steve Hanke ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประยุกต์จากมหาวิทยาลัย John Hopkins เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นของสหรัฐเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไม่ช้า
นาย Hanke ให้สัมภาษณ์กับ Kitco News ว่ามีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอยู่ที่ประมาณ 65% โดยเขาระบุว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐ
ความผิดพลาดของ Fed
นาย Steve Hanke นักเศรษฐศาสตร์บอกว่า Fed ต้องมีความรับผิดชอบต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ โดยระบุว่ามีสาเหตุมาจากการใช้มาตรการก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องการพิมพ์เงิน โดยที่สถาบันไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
“ผมค่อนข้างมันใจว่ามันจะสูงถึง 65% เรากำลังพูดถึงสิ่งที่ Fed ทำ พวกเขาไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร พวกเขาทำผิดพลาดมากมาย พิมพ์เงินส่วนเกินจำนวนมากและทำให้เรามีอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึงขนาดนี้”
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คืออัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.6%
เขายังตั้งข้อสังเกตุว่าโอกาสในการย้อนกลับอัตราเงินเฟ้อกลับไปเป็น 2% อาจเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีเงินส่วนเกินอยู่ในระบบ และเราอาจจะเจอทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเงินเฟ้อในเวลาเดียวกัน
เขาตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันจะยังคงอยู่ไปอีกนานถึงระดับ 1-2ปี เนื่องจากปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“ไม่ว่าคุณจะทำอะไรในวันนี้ แม้ว่าคุณจะทำอะไรที่มันมากเกินไปจนเกิดสถาวะถดถอย คุณก็จะต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ”
จากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึเน ตลาดคริปโตและตลาดหุ้นกำลังร่วงลง ทำให้การฟื้นตัวของตลาดอาจจะไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้
Bitcoin ร่วงทะลุ 29,000 ดอลลาร์
Bitcoin เป็นหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อได้ แต่ตอนนี้ Bitcoin ได้ร่วงลงมาต่ำกว่า 29,000 ดอลลาร์ ลดลงมากว่า 2% ในช่วง 1 วันที่ผ่านมา และอาจมีความเสี่ยงอื่นเพิ่มมาอีก ถ้าหากทาง Fed ตีความว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ในช่วงที่มีการร่วงของราคา นาย Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy ได้ออกมาให้ความหวังกับนักลงทุนว่า “อัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึงจุดสูงสุด และ Bitcoin ก็เช่นกัน”
สามารถดูบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ ได้ที่ข้างล่างนี้ :