การปฏิวัติการชำระเงินทางดิจิทัลที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงการระบาดของ Covid-19 กำลังกระตุ้นความสนใจและการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้ในแถบละตินอเมริกา โดยการสำรวจล่าสุดจาก Mastercard พบว่า 51% ของผู้บริโภคในภูมิภาคนี้เคยทำธุรกรรมด้วย crypto และ stablecoin
โดยมากกว่าหนึ่งในสามในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจเผยว่า พวกเขาเคยซื้อสินค้าด้วยเหรียญ Stablecoin ตามแบบสำรวจ New Payments Index 2022 ของ Mastercard ที่จัดทำขึ้นในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนจากผู้คนมากกว่า 35,000 คนทั่วโลก
การสำรวจแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมทางการเงิน เช่น คริปโตเคอเรนซี, โซลูชั่น DeFi, บล็อคเชน, NFTs เป็นกิจกรรมที่สำคัญในภูมิภาคนี้ โดยผู้บริโภคต่างกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบนิเวศคริปโต
“ชาวลาตินอเมริกาหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินมากขึ้นเรื่อยๆ และแนวโน้มนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 95% วางแผนที่จะใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัลในปีหน้า และ 29% ยอมรับว่าใช้เงินสดน้อยลงใน ปีที่ผ่านมา” Walter Pimenta รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมของ Mastercard ในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียน กล่าว
ในละตินอเมริกา 54% ของผู้บริโภคที่สำรวจมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล และสองในสามต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นในการใช้สกุลเงินดิจิทัลและวิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิมสลับกันไป
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ (82% ของผู้ตอบแบบสำรวจ) กล่าวว่า พวกเขาต้องการให้มีฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้โดยตรงจากสถาบันการเงินปัจจุบันของพวกเขา
การสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการลงทุน (69%) และทำการโอน/รับการชำระเงิน (67%) ในสกุลเงินดิจิทัล หากมีออกหรือสนับสนุนโดยองค์กรที่น่าเชื่อถือ
ที่มา : theblock