ธนาคารยักษ์ใหญ่ 3 แห่งและสถาบันการเงินอีก 1 แห่งถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับเนื่องจากพวกเขามีส่วนร่วมในการตกแต่งบัญชีของบริษัท Fintech
ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้สั่งปรับธนาคาร DBS, OCBC, Citibank Singapore และ Swiss Life เนื่องจากละเมิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและต่อต้านการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับเงินทุนมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ของบริษัท Wirecard AG
ธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่าสถาบันการเงินที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ ล้มเหลวในการตรวจสอบการทำธุรกรรมขนาดใหญ่, การดำเนินการ, การดูแลใช้งานของลูกค้า, และการระบุแหล่งที่มาของเงินทุนสำหรับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง
บริษัท Wirecard ซึ่งเป็นบริษัทด้านการชำระเงินชื่อดังในเยอรมันเคยได้กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ว่าไม่มีเงินสด 2.1 พันล้านดอลลาร์ในงบดุลของบริษัท ซึ่งคาดว่ามีอยู่ในธนาคารในเอเชีย
ผู้บริหารของบริษัทได้ใช้ทั้งธุรกรรมปลอม เอกสารปลอม และการตกแต่งบัญชีเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือด้านการเงินและสร้างภาพความสำเร็จของบริษัท
ธนาคารกลางสิงคโปร์กล่าวว่าสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันจ่ายค่าปรับจำนวน 3.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งคิดเป็นเงินดอลลาร์ประมาณ 2.8 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากพวกเขาเป็นทางผ่านในการตกแต่งบัญชีของบริษัท
“ในฐานะที่สิงคโปร์ให้ความสำคัญมากขึ้นในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารกลางสิงคโปร์จึงคาดหวังให้สถาบันการเงินของเรายกระดับการควบคุมเพื่อป้องกันกระแสเงินที่ผิดกฎหมาย”
“พวกเขาต้องใช้มาตรการที่รัดกุมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมของลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้ถูกต้องตามธุรกิจของพวกเขา และใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อต้องดูแลลูกค้าที่มีโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อน”
“แม้ว่าการละเมิดจะร้ายแรง แต่ทางธนาคารกลางสิงคโปร์ไม่พบว่าพนักงานของสถาบันการเงินเหล่านี้มีเจตนาที่จะกระทำดังกล่าว”
การฟอกเงินของบริษัท Wirecard ได้ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินไปมหาศาลและสิ่งนี้ได้เผยให้เห็นถึงข้อบกพร่องอย่างมากในการกำกับดูแลและการตรวจสอบ
ค่าปรับที่สถาบันการเงินทั้ง 4 แห่งต้องเผชิญนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าเงินที่สถาบันเหล่านี้หามาได้
สถาบันการเงิน DBS เพียงแห่งเดียวที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 2.21 แสนล้านดอลลาร์ได้ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้วด้วยมูลค่า 6.2 พันล้านดอลลาร์
Source: DailyHodl