Jesse Livermore ผู้เขียนหนังสือ How to Trade in Stocks (1940) คือ นักเทรดหุ้นผู้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเทรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล อย่างไรก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาคนนี้ แม้ว่าหนังสืออัตชีวประวัติของเขาอย่าง Reminiscences of a Stock Operator (1923) จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่นักเทรดทุกคนต้องอ่านก็ตาม
Livermore ถือเป็นนักเทรดชื่อดังที่สามารถทำกำไรมหาศาลกว่า 100 ล้านดอลลาร์ (1.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน) เมื่อปี 1929 และที่สำคัญคือเขาทำเงินได้มากขนาดนั้นด้วยการเทรดในแบบฉบับของตัวเขาเอง อีกทั้งยังใช้เงินทุนของเขาเองโดยไม่เคยยืมเงินใครเลยจนกระทั่งประสบความสำเร็จ
ดังนั้นในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะพาทุกคนมาส่องกลยุทธ์ของ Livermore ไปพร้อมกัน เพราะบางทีเทคนิคการเทรดของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานคนนี้ อาจสามารถนำไปปรับใช้กับการเทรดคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพก็เป็นได้
ทำความรู้จักกับ Jesse Livermore
Jesse Livermore เริ่มอาชีพนักเทรดของเขาด้วยการเป็นนักเทรดรายวัน แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลายเป็นนักเทรดสายย่อซื้อ (swing trader) และนักเทรดระยะยาว (long-term trader)
Livermore เริ่มเทรดตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยทำกำไรครั้งแรกได้ 3.12 ดอลลาร์เมื่ออายุ 15 ปี และทำเงินได้มากถึง 1,000 ดอลลาร์ในช่วงอายุเดียวกัน (ประมาณ 3 หมื่นบาท) จากนั้นเขาก็เดินหน้าเทรดต่อไปเรื่อย ๆ กระทั่งเมื่อเขาอายุ 20 ปี Livermore ก็ทำเงินได้ประมาณ 10,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงิน 344,500 บาทในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าเขาทำเงินได้มาก แต่ก็ขาดทุนมากเช่นกัน เนื่องจากไม่มีใครสอนเขาเทรด หรือเรียกได้ว่า Livermore เป็นนักเทรดที่เรียนรู้ด้วยตนเองในขณะที่เขาเทรดหุ้น พยายามลองผิดลองถูกอยู่นานหลายปี จนท้ายที่สุดเขาก็รู้ว่าอะไรได้ผล และสามารถกำหนดกลยุทธ์การเทรดในแบบฉบับของตัวเองจนคว้าความสำเร็จในตลาดหุ้นได้
Jesse Livermore ทำเงินได้ 100 ล้านดอลลาร์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เพราะเขา short หุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นตกต่ำถึงขีดสุดเมื่อปี 1929 และทำเงินไปกว่า 100 ล้านดอลลาร์ด้วยการใช้ประโยชน์จากการล่มสลายของตลาดหุ้น ซึ่งเงินจำนวนนั้นคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ทำความเข้าใจกลยุทธ์การเทรดของ Jesse Livermore
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Livermore เทรดด้วยวิธีของเขาเอง โดยใช้เงินทุนของตัวเขาเอง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสำเร็จของเขาถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก เพราะในช่วงที่ Livermore เทรดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดมีปริมาณการซื้อขายเบาบางมากเมื่อเทียบกับตลาดในทุกวันนี้ และการเคลื่อนไหวของราคาก็มีความผันผวนอย่างหนัก
แม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานเกือบหนึ่งศตวรรษ แต่ Pattern ราคา และกฎการเทรดในแบบฉบับของ Jesse Livermore ก้ยังคงถือเป็นกลยุทธ์การเทรดที่น่าสนใจ โดยหลัก ๆ แล้วสามารถสรุปกลยุทธ์การเทรดของเขาได้ดังนี้
Pattern ราคา
Livermore ไม่เคยใช้กราฟราคาแบบที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่เขาทำคือสร้าง Pattern ราคาในแบบของเขาเอง โดย Pattern ดังกล่าวเป็นเพียงราคาที่เขาติดตามในบัญชีแยกประเภท
Livermore มักจะเทรดหุ้นที่เคลื่อนไหวตาม trend เท่านั้น และเขาจะหลีกเลี่ยงตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลง trend อยู่บ่อยครั้ง โดยเมื่อราคาเข้าใกล้จุดสำคัญ เขาจะรอดูว่าตลาดจะตอบสนองอย่างไร
ตัวอย่างเช่น ถ้าหากหุ้นทำราคาต่ำสุดที่ 50 ดอลลาร์ ก่อนจะเด้งขึ้นไปที่ 60 ดอลลาร์ และตอนนี้ก็กลับลงไปที่ 50 ดอลลาร์อีกครั้ง Livermore จะรอจนกว่าจุดสำคัญจะอยู่ในช่วงที่เขาจะเทรด
ถ้าหากหุ้นตัวเดียวกันนั้นขยับไปลงที่ 48 ดอลลาร์ เขาจะเปิด short แต่ถ้าหากเด้งขึ้นมาจากระดับ 50 ดอลลาร์ เขาจะเปิด long ที่ 52 ดอลลาร์ พร้อมกับจับตาดูระดับ 60 ดอลลาร์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากคาดว่าระดับราคานั้นจะเป็น “จุดเปลี่ยน” เพราะราคาเหนือ 60 ดอลลาร์ จะทำให้เกิดการเพิ่มตำแหน่ง (pyramiding) ที่ 63 ดอลลาร์ เป็นต้น
ถึงแม้ว่า Livermore จะไม่ได้เทรดในช่วงราคาที่เขาต้องการ เขาก็จะเทรดช่วง breakout จากตลาดที่หลากหลาย ซึ่งเขาจะใช้กลยุทธ์ที่คล้ายกันกับสถานการณ์ในข้างต้น โดยเข้าสู่ตลาดที่จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดใหม่ แต่จะใช้ buffer เพื่อลดโอกาสเกิด False Breakout
นอกจากนี้ Livermore ยังใช้ Pattern ราคาร่วมกับการวิเคราะห์ volume เพื่อกำหนดว่าควรเทรดต่อไปใน position เดิมหรือไม่ ทั้งนี้กฎเกณฑ์บางประการที่ Livermore ใช้ตัดสินว่าเขาอยู่ใน position ที่ถูกต้องหรือไม่นั้น ได้แก่:
- volume ที่เพิ่มขึ้นในการ breakout
- ในช่วง 2-3 วันแรกหลังจากการ breakout ราคาควรเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับจุดที่เกิดการ breakout
- เรื่องปกติที่ราคาจะถอยกลับสวนทางกับแนวโน้มเล็กน้อยหลังจากเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่งในทิศทางเดียว
- เมื่อปฏิกิริยาปกติสิ้นสุดลง volume จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในทิศทางเดียวกับ trend
การเบี่ยงเบนจากกฎเกณฑ์เหล่านี้จะถือเป็นสัญญาณเตือน และหากได้รับการยืนยันโดยการกลับตัวที่จุดสำคัญ แสดงว่าควรทำการ take profit
กฎการเทรดของ Jesse Livermore
- เทรดตาม trend, ซื้อในตลาดกระทิง, เปิด short ในตลาดหมี
- อย่าเทรดถ้าโอกาสยังไม่ชัดเจน
- เทรดโดยกำหนดจุดสำคัญ
- รอให้ตลาดยืนยันก่อนเข้า ความอดทนจะนำไปสู่ “เงินก้อนโต”
- ปล่อยให้กำไรวิ่ง ปิดการเทรดทันทีเมื่อขาดทุน เพราะโดยทั่วไปแล้วการเทรดที่ประสบความสำเร็จจะแสดงแต่ผลกำไรเท่านั้น
- เทรดด้วยการหยุด และรู้ว่ากำลังทำอะไรก่อนเข้าตลาด
- ออกจากการเทรดเมื่อโอกาสในการทำกำไรเหลือน้อย (ใกล้จบ trend นั้น ๆ แล้ว)
- เทรดหุ้นชั้นนำในแต่ละ sector, เทรดหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดกระทิง และเทรดหุ้นที่อ่อนแอที่สุดในตลาดหมี
- อย่าลงเงินใน position ที่ขาดทุนแบบถัวเฉลี่ย
- ถ้าไม่ถูก Margin Call ให้ทำการปิด position แทน
- อย่าเฝ้าดูราคาหุ้นมากเกินจนไป
ถึงแม้ Livermore จะถือเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่เขาก็สูญเสียทรัพย์สมบัติไปหลายครั้งเช่นกัน โดยการที่เขาสูญเสียเงินมักเกิดจากความผิดพลาดสองประการ คือ
- กฎการเทรดของเขาใช้ไม่ได้อย่างสมบูรณ์ในกรณีที่เขาขาดทุนเป็นเงินก้อนใหญ่
- เขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
จากที่กล่าวมาคงจะพอสังเกตได้ว่ากลยุทธ์การเทรดของ Jesse Livermore นั้นค่อนข้างเรียบง่าย และบางอย่างก็ถือเป็นสิ่งที่รวมอยู่ในกลยุทธ์ของนักเทรดหลาย ๆ คนอีกด้วย เนื่องจากกฎของเขาเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา แต่ทว่ากฎของ Livermore นั้นก็ยังคงใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจนถึงทุกวันนี้ เพราะกลยุทธ์ของ Jesse Livermore ถูกสร้างขึ้นภายใต้ความจริงที่ว่า “ใน Wall Street ไม่มีอะไรใหม่ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการเก็งกำไรนั้นเก่าพอ ๆ กับเนินเขา อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นวันนี้ ก็เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันจะเกิดขึ้นอีก”
ที่มา: investopedia