ชาวเน็ตรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการถือครอง Bitcoin ของรัฐบาลสหรัฐว่า ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มาจากการจับกุมคดีอาชญากรรมต่าง ๆ และกำลังเตรียมที่จะขาย Bitcoin ทอดตลาดในเร็ว ๆ นี้
การถือครอง BTC ของรัฐบาลสหรัฐ
- พฤศจิกายน 2020: รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มถูกติดตามโดย Glassnode ทำให้ทราบยอดการถือครองของหน่วยงานอยู่ที่ต่ำกว่า 70,000 BTC
- กุมภาพันธ์ 2022: การถือครอง BTC ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 94,000 BTC
- พฤศจิกายน 2022 : การถือครอง BTC ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 51,000 BTC
- สรุปยอดรวมทั้งหมด: รัฐบาลสหรัฐฯ มีการถือครองอย่างน้อย 194,000 BTC ในเดือนพฤศจิกายน 2022 หรือคิดเป็นประมาณ 1% ของ Bitcoins ทั้งหมดที่มีการหมุนเวียนอยู่ในปัจจุบัน
การได้มาของ BTC ของรัฐสหรัฐฯ:
- พฤศจิกายน 2020: รัฐบาลสหรัฐฯ ยึด Bitcoin จากอาชญากรในจำนวนที่น้อยกว่า 70,000 BTC รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด Silk Road
- กุมภาพันธ์ 2022: รัฐบาลสหรัฐฯ ยึด Bitcoin มากกว่า 94,000 BTC รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการแฮ็ก Bitfinex และกิจกรรมอาชญากรไซเบอร์อื่น ๆ
- พฤศจิกายน 2022: รัฐบาลสหรัฐฯยึด Bitcoin มากกว่า 51,000 BTC รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ Silk Road และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ
การขาย BTC ของรัฐบาลสหรัฐฯ
- 2014-2015:รัฐบาลสหรัฐฯ ประมูล 144,000 BTC ที่ยึดได้จาก Silk Road ในการประมูลสามครั้ง โดยมีผู้ซื้อหลัก ๆ ได้แก่ Tim Draper และ Barry Silbert
- มีนาคม 2023:รัฐบาลสหรัฐโอน BTC ในจำนวนน้อยกว่า 10,000 BTC ไปขายบน Coinbase ทำให้ราคา Bitcoin ในตลาดร่วงดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
- การขาย BTC ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต: รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนที่จะขาย BTC ที่เหลืออีก 40,000 BTC ที่ยึดได้จากตลาดมืด Silk Road อีกจำนวน 4 ครั้งตลอดทั้งปีนี้
ราคาขายเฉลี่ย:
- การประมูล Silk Road ปี 2014-2015: รัฐบาลสหรัฐฯ ประมูลขาย BTC เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $334 ต่อ 1 BTC
- มีนาคม 2023: รัฐบาลสหรัฐฯ ขาย 9,861 BTC มูลค่า 216 ล้านดอลลาร์บน Coinbase ราคาเฉลี่ยประมาณ $22,000 ต่อ 1 BTC
จนถึงตอนนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศความตั้งใจที่จะขาย BTC เพิ่มอีก 40,000 BTC ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคา BTC ในปี 2023
ที่มา: Reddit