เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา Youtuber ชื่อดังอย่าง ‘9arm’ ได้อัปโหลดคลิปบน Youtube ของตัวเอง โดยมีการพูดถึงนโยบายที่ยังคงร้อนแรงของ พรรคเพื่อไทย กับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งคลิปดังกล่าวจะเป็นการพูดถึงเรื่องเทคนิคเท่านั้น ไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนโยบาย เงินมาจากไหน หรือเรื่องกฎหมายแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จะนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ ซึ่งในปัจจุบันนั้น 9arm ยังไม่ได้มีการคุยกับพรรคเพื่อไทยอย่างจริงจัง เนื่องจากปัจจุบันพรรคเพื่อไทยยังคงยุ่งกับการจัดตั้งรัฐบาล และคาดว่าจะมีการพบปะพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมในภายหลัง
9arm กล่าวชี้แจงว่าเนื้อหาภายในคลิปนี้ จะเป็นการพูดคุยถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทที่เลือกใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่ง 9arm จะพาทุกคนไปเจาะลึกถึงประเด็นนี้
สำหรับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทในความคิดของ 9arm นั้นมีโอกาสที่มันจะได้ผลและมันก็มีโอกาสที่มันจะไม่ได้ผล ซึ่งเขากล่าวย้ำว่า:
“ส่วนตัวนะ ลองดูมันก็ไม่เสียหาย เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่องของไอเดียที่เขาจะทำ ที่จะแจกภายใน 4 กิโลเมตร มันมาจาก principle ที่ดี คือมีความตั้งใจดี”
ทางพรรคเพื่อไทยเคยออกแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า “เงิน 1หมื่นบาทที่จะแจกนั้น เป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ทใช้ผ่านบล็อกเชน” โดยเงินที่จะนำมาแจกนั้นมันมีอยู่จริงคือมีเงินที่ backed อยู่จริง ๆ แบบบาทต่อบาทไม่ได้เป็นการเสกเงินขึ้นมา
ใช้ Blockchain แล้วดียังไง ?
9arm ได้อ้างถึงคำพูดของดร.เผ่าภูมิ ได้เคยให้สัมภาษณ์ถึง Blockchain เอาไว้ก่อนหน้านี้ในรายการของคุณสรยุทธ์ ก่อนหน้านี้และจะอิงตามข้อดีในการใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน
เงินที่สามารถโปรแกรมได้ (Programmable Money)
คือเงินที่สามารถกำหนดเงื่อนไขได้ เพราะสามารถที่จะใส่เงื่อนไขได้ อย่างในกรณีของพรรคเพื่อไทยคือ 4 กิโลเมตร, ร้านไหนใช้ได้บ้าง และสามารถที่จะติดตามธุรกรรมได้
ซึ่งในทางเทคนิคนั้นมักมีคำถามว่า แล้วถ้าไม่ใช้ Blockchain นั้นสามารถทำได้ไหม? 9arm เองก็บอกว่าสามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่ง 9arm ก็บอกอีกว่าเราเคยทำมาแล้วด้วยผ่านโครงการ “เราชนะ, คนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน)
มีความปลอดภัยสูง
คำถามคือ มันปลอดภัยจริงไหม ? ซึ่งความปลอดภัยของ Blockchain นั้นขึ้นอยู่กับความ Decentralized (กระจายอำนาจ) แล้วมันคืออะไร โดย 9arm ก็ได้ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายขึ้น
“ปกติแล้วเราจะเชื่อสถาบันอะไรบางอย่าง สมมติว่าเป็นให้แบงก์เป็นคนเก็บข้อมูลทั้งหมด แต่ Blockchain มันมีข้อดีก็คือ มันสามารถทำให้ใครก็ได้ขึ้นมาเป็นคนเก็บข้อมูล ซึ่งหากมากกว่าครึ่งเห็นด้วยว่าข้อมูลนี้ถูกช่วยตรวจสอบซึ่งกันและกัน ถ้าเกิดว่าช่วยตรวจสอบกันและกันก็ไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง นี่คือความหมายของ Decentralized และนี่คือความหมายของคำว่า ปลอดภัย”
โดย 9arm ก็ยังมีคำถามซึ่งส่งตรงถึงพรรคเพื่อไทยด้วย สำหรับการใช้งาน จะนำมาใช้เป็น Decentralized แบบนี้หรือเปล่า? ทั้งนี้ 9arm ก็ยังคงฝากคำถามถึงพรรคเพื่อไทยว่าการใช้งานนี้เป็น Centralized หรือ Decentralized กันแน่ และโดยส่วนตัว 9arm มองว่าด้วย use case แบบนี้ส่วนใหญ่มักเป็น Centralized อยู่แล้ว
มีความโปร่งใส
ต้องย้อนไปดูว่าตรวจสอบดูว่า Blockchain ของเพื่อไทยนั้นเป็น Centralized หรือ Decentralized? เพราะหากเป็น Centralized การอ้างว่าจะนำมาใช้เพื่อความโปร่งใสในระบบนั้นอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก
นอกจากนั้น 9arm ได้มีการพูดถึง คุณโดม เจริญยศ” ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคไนน์ จำกัด (Tokenine) เกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของเพื่อไทยที่ทำไมจะต้องใช้บล็อกเชน โดยคุณโดมได้บอกแนวทางการคิดแก่ 9arm ด้วย
“ผมคุยกับพี่โดม บอกว่าเออลองคิดแบบนี้ดูถ้าเขียน Programmable Money ธรรมดาก็เขียนได้เหมือนกัน แต่ว่าต้องไปเขียน database เอาเอง แต่ถ้าเอามาเขียนบนเชนก็ได้ database ฟรีเลย มันซิงค์กันง่ายมากมันมีโปรโตคอลของมันอยู่แล้ว”
ซึ่ง 9arm ก็อธิบายต่อว่า “ถ้าเรามาวิเคราะห์กันว่าแบบธรรมดาก็ทำได้ แต่เราอยากได้บล็อกเชนเพราะว่ามันสามารถต่อยอดได้”
สรุป
9arm กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนของ 9arm นั้นสามารถทำได้ แต่อาจต้องใช้เวลา การจะทำสำเร็จลุล่วงได้ใน 6 เดือนนั้นก็อาจจะเป็นไปได้แต่ยาก ทั้งนี้ยังพูดถึงหากจะพัฒนาระบบจากแอปพลิเคชันเดิมอย่าง “เป๋าตัง” ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ก็ยังยากถ้าจะทำภายใน 6 เดือน ซึ่งหากไม่ได้นอนเลยก็อาจจะเป็นไปได้
นอกจากนี้ 9arm กล่าวต่อไปว่า คนไทยที่เก่ง Blockchain นั้นมีจำนวนมาก แต่ว่าก็ยังไม่มีเจ้าไหนออกมาบอกว่าเป็นคนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับโครงการนี้ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าเพื่อไทยจะเอาใครมาทำในจุดนี้
สุดท้ายนี้ถ้ามองแต่ทางเทคนิคอย่างเดียวนั้น 9arm กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก หากให้ประเมินว่าสามารถทำได้ไหม? “ทำได้แต่ยาก” พร้อมบอกต่ออีกว่าโดยการนำเอาบล็อกเชนมาใช้มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าขึ้นไปได้อีกขั้น
อย่างไรก็ดีสามารถไปฟังคลิปเต็ม ๆ ได้ที่ด้านล่าง เนื้อหาก่อนนี้เป็นการฟังและสรุปจากผู้เขียนเท่านั้น