<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชายรายหนึ่งสูญเสียการเข้าถึงกระเป๋าเงิน 9,000 BTC ในปี 2010 ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 8,100 ล้านบาท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีเรื่องราวฮือฮาบนโลกโซเซียลเกี่ยวกับผู้ใช้ Bitcoin ในปี 2010 รายหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงกระเป๋า Bitcoin ของตัวเองที่มี 9,000 BTC เก็บอยู่ในนั้นได้ ทำให้เขาต้องสูญเสียเงินมูลค่าเป็นจำนวนมหาศาล โดยบทความนี้จะมาเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ในตอนที่ Bitcoin ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก

ในปี 2010 ถือว่าเป็นยุคแรกของ Bitcoin ที่ทุกคนต่างก็อยู่ในช่วงของการทำความเข้าใจว่าเหรียญดิจิทัลนี้ทำงานอย่างไร เจ้าของกระเป๋าคริปโตรายนี้ก็เช่นกัน เขาดำเนินการซื้อ Bitcoin จำนวน 9,000 BTC หลังจากนั้นก็โอน 1 BTC  ไปที่กระเป๋าคริปโตของเขาเอง 

ในขณะนั้น ผู้คนยังไม่มีความเข้าใจเรื่องการทำงานของบล็อกเชน อย่างการ input และ output ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย หากคุณโอนเหรียญ Bitcoin แม้เพียง 1 BTC ก็จะส่งผลให้เหรียญ Bitcoin ที่เหลือทั้งหมดใน UTXO จะต้องถูกส่งออกไปยังที่อยู่ใหม่อีกที่หนึ่ง โดยจะอยู่ในการควบคุมของผู้ใช้รายนี้

นั่นหมายความว่าเหรียญ Bitcoin ที่เหลือ 8,999  BTC ของผู้ใช้รายนี้ก็ถูกส่งไปยังที่อยู่ใหม่ ซึ่งผู้ใช้รายนี้ผิดพลาดตรงที่เขาไม่รู้ว่าจะต้อง Backup ข้อมูลของกระเป๋าคริปโต เพื่อให้แน่ใจว่าไฟล์ wallet.dat จะมีที่อยู่ใหม่นี้ด้วย และดำเนินการ Format และติดตั้งระบบของเขาอีกครั้ง 

เมื่อผู้ใช้รายนี้โหลดไฟล์สำรองข้อมูลเก่าใน Bitcoin client ก็พบว่าเขาเหลือเพียง 1 BTC ในกระเป๋าคริปโต โดยที่อีก 8,999 BTC อยู่ในกระเป๋าคริปโตอีกใบหนึ่ง ซึ่งถูกล็อกไว้ เขาจึงไม่สามารถเข้าถึง Bitcoin นี้ได้ตลอดกาล

นี่คือเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ตามในยุคนั้น เพราะคงไม่มีใครคิดว่าจะต้องสำรองข้อมูลทุกครั้งที่ทำธุรกรรมใด ๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน Satoshi Nakamoto ก็ปรับปรุงระบบโดยให้สามารถใส่ที่อยู่ต่าง ๆ ไว้ได้ในกระเป๋าเงินเดียว เพื่อให้สามารถจัดการเอาท์พุทและอินพุตในที่อยู่เหล่านี้พร้อมกันได้ ช่วยให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลตอนสร้างกระเป๋าคริปโตเพียงแค่ครั้งเดียว

การสูญเสียการเข้าถึงกระเป๋าคริปโตของตนเองทำให้ผู้ใช้รายนี้สูญเสียเงินมูลค่ากว่า 232 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 8.1 พันล้านบาทอย่างน่าเสียดาย

ที่มา: Reddit