แม้จะมีหลายต่อหลายคนที่ออกมายืนยันว่า “เงินซื้อความสุขไม่ได้” แต่ทุกคนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเงินถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่สามารถช่วยให้ชีวิตของเรามั่นคงและปลอดภัยมากพอที่จะหาความสุขให้กับตนเอง ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องหาเงินอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ดี เคยมีใครสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่าเราจะต้องหาเงินมากเท่าไรถึงจะมีความสุข?
ผลสำรวจ ‘ราคาความสุข’ (The Price of Happiness) ใน 178 ประเทศ และ 518 เมืองทั่วโลก ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Purdue ในปี 2018 ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของ “จุดอิ่มตัว” ระหว่างเงินกับความสุขของคนทั่วโลกนั้น อยู่ที่ราว ๆ 60 – 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอาศัยข้อมูลจาก Gallup World Poll ของผู้คนกว่า 1.7 ล้านคนใน 164 ประเทศ
ในการสำรวจครั้งนี้ นักวิจัยยืนยันชัดเจนว่าแต่ละภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดยจุดอิ่มตัวจะเกิดขึ้นในภูมิภาคที่มีความร่ำรวยกว่า เพราะรายได้ที่สูงขึ้นจะทำให้คนเรามีความรู้สึกพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน นักวิจัยก็พบว่า บุคคลทั่วไปในแต่ละภูมิภาคของโลก มีรายได้ในระดับที่ “ไม่สามารถเพิ่มความสุขได้อีกต่อไป”
จากผลงานศึกษาดังกล่าว แพลตฟอร์ม S Money ได้แปลงตัวเลขในข้อมูลจากการวิจัยของ Purdue กลับเป็นสกุลเงินท้องถิ่นของแต่ละประเทศ เพื่อตอบคำถามที่ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในแต่ละประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก “ต้องมีเงินมากแค่ไหนถึงจะมีความสุข”
ตามข้อมูลจาก S Money การมีความสุขในประเทศอิหร่านนั้นจำเป็นต้องใช้เงินมากถึง 239,700 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว ๆ 8.6 ล้านบาท ในขณะที่ผู้คนในประเทศเซียร์ราลีโอนใช้เงินเพียง 8,658 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 3 แสนบาท ก็สามารถมีความสุขได้แล้ว
สำหรับประเทศไทยนั้น ข้อมูลจาก S Money แสดงให้เห็นว่าคนไทยต้องการเงินประมาณ 36,745 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว ๆ 1.3 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบเป็นรายเดือนนั้น หมายความว่าเราต้องการเงินอย่างน้อย 110,000 บาทต่อเดือน ถึงจะเพียงพอสำหรับการมีความสุขหรือพึงพอใจในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย
นอกจากนี้ S Money ยังคำนวณจุดอิ่มตัวระหว่างรายได้กับความสุขของชาวจังหวัดกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ โดยข้อมูลเปิดเผยว่าชาวกรุงเทพฯ ต้องมีรายได้ต่อปีประมาณ 1.61 ล้านบาท ภูเก็ตประมาณ 1.35 ล้านบาท พัทยาประมาณ 1.27 ล้านบาท และเชียงใหม่ประมาณ 1.21 ล้านบาท
ที่มา: smoney