<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชายรายหนึ่งลงทุน Crypto เจ๊ง สูญเงินค่าดาวน์บ้านกว่า 3 แสนบาท หลัง Voyager ล้มละลาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Voyager Digital โบรกเกอร์คริปโตที่ได้ยื่นล้มละลาย จนส่งผลให้ผู้ใช้และนักลงทุนต่างสูญเสียทรัพย์สินกันถ้วนหน้า และผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้รับเงินสินไหมทดแทน อ้างอิงตามรายงานของ Bloomberg  

เช่นเดียวกับกรณีของ Telvin Hodo ครูอเมริกันวัย 29 ที่ใช้งาน Voyager โดยเขาลงทุนเงินประมาณ 10,000 ดอลลาร์ ในคริปโตหลายเหรียญ รวมถึง stablecoins  

แต่หลังจากโบรกเกอร์ยักษ์ใหญ่แห่งนี้ล้มละลาย ทรัพย์สินของเขาก็ถูกดูดกลืนหายไปทั้งหมด รวมถึงเงินดาวน์และค่าผ่อนบ้านใหม่ของเขา 

“มันแย่มาก” เขากล่าวกับ Bloomberg “ผมซื้อหรือขายไม่ได้ และผมไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนก่อนที่ผมจะทำได้”

จากรายงานของ Bloomberg โบรกเกอร์แห่งนี้มีสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้เพิ่มปริมาณการเทรดในตลาดคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ Voyager ได้ระงับการถอนเงินไปแล้ว

แม้ว่านี่อาจไม่ใช่จุดจบสำหรับนักลงทุนที่ร่ำรวย แต่ความสูญเสียนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้คนทั่วไปที่ไว้ใจในการใช้งานเ Voyager และบริษัทอื่น ๆ ด้วยเงินเก็บก้อนสำคัญของพวกเขา 

Voyager ที่ล้มละลายอาจฟื้นตัวได้ในอนาคต

บริษัท Voyager  ยอมรับว่า มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ได้รับ “ผลกระทบ” จากกระบวนการการฟ้องร้องล้มละลายนี้ แต่ทางบริษัทก็มีแผนที่จะมอบหุ้นออปชั่น, เหรียญที่ฝากไว้ และโทเค็นของบริษัท ให้กับผู้ใช้งานแทนเงินสด

นอกจากนี้ทาง Voyager ยังสัญญาว่าจะส่งต่อเงินสดที่ได้รับจากกองทุน Three Arrows Capital กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านคริปโตที่ล่มสลายคืนให้กับผู้เสียหาย — แต่เนื่องจากบริษัทกำลังประสบกับภาวะล้มละลาย ในขณะนี้ Voyager จึงเป็นหนี้อยู่ที่ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จึงอาจจะยังไม่สามารถดำเนินการคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ในเร็ว ๆ นี้

นักลงทุนรู้สึกเหมือนถูกปล้น

“ผมรู้สึกเหมือนถูกปล้น” Aaron Selenica นักศึกษาอายุ 21 ปี ซึ่งเคยลงทุนใน Voyager กล่าวกับ Bloomberg

Selenica อธิบายให้กับสำนักพิมพ์ว่า ผมลงทุนไปประมาณ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ใน Voyager ดังกล่าวหลังจากเห็นโฆษณาในเกมบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัย

Selenica ผู้เคยเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าต่อคริปโตว่าเป็นเงินของโลกอนาคตที่มีศักยภาพในการเติบโตได้ไกล ดูเหมือนว่าในตอนนี้ เขาจะหันหลังให้กับตลาดที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงแห่งนี้ไปตลอดกาล

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้ถึงถูกกฎหมาย ผมจะไม่ลงทุนบนแพลตฟอร์มอื่นอีกต่อไป ผมพอแล้วกับคริปโต”

ที่มา: The Byte