ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบิทคอยน์กำลังเพิ่มสูงขึ้น แม้ราคาจะยังไม่ฟื้นตัว นักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดหมีกำลังจะสิ้นสุดลง ซึ่งในขณะที่บิทคอยน์ยังคงซื้อขายอยู่ในช่วงใกล้กับราคา 26,000 ดอลลาร์ เหรียญพรีเซลอย่าง Bitcoin Minetrix ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ในทิศทางที่ดี
ความแข็งแกร่งของบิทคอยน์ในการยืนหยัดที่ระดับแนวรับ 26,000 ดอลลาร์ ท่ามกลาง FUD “เดือนกันยายน” และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่ไม่เป็นมิตร ได้สร้างความรู้สึกประทับใจให้กับผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าเฟดจะระงับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ประธานเฟด เจโรม โพเวลล์ ยังคงส่งสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอนาคต และอัตราดอกเบี้ยอาจสูงถึง 4% ในปี 2024 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน ประธานบริษัท JPMorgan จามี ดิมอน ได้ทำให้ผู้ชมที่งาน Bloomberg ตกใจเมื่อเขาคาดการณ์ว่าอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางจะอยู่ที่ 7% ในไม่ช้านี้ ซึ่งจะผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอน
ประธานบริษัท JPMorgan จามี ดิมอน คาดการณ์ว่าอัตราเงินกองทุนของรัฐบาลกลางจะอยู่ที่ 7% ในไม่ช้านี้ ซึ่งจะผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอน และการคาดการณ์ของดิมอนได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง พร้อมกับดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่
ภาวะตลาดหมีนี้ยังส่งผลกระทบต่อ Bitcoin (BTC) โดยทำให้ราคาลดลง และทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) เลื่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับการสมัคร Bitcoin ETF ที่รอดำเนินการออกไปอีก อย่างไรก็ตาม BTC ยังคงรักษาระดับราคาที่สำคัญไว้ที่ 26,000 ดอลลาร์เอาไว้ได้อย่างมั่นคง
นักลงทุนบิทคอยน์กำลังตั้งตารอไตรมาสที่สี่ ซึ่งเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ BTC โดยคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง @CryptoJelleNL คาดการณ์ว่า BTC จะแตะระดับราคา 42,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ Michael van de Poppe จาก MN Trading คาดการณ์ว่า BTC จะทะลุระดับ 30,000 ดอลลาร์
ในทำนองเดียวกัน เทรดเดอร์ชื่อดัง @CryptoTony__ เชื่อว่าในไม่ช้า BTC จะได้เห็น Break out ของราคา และทดสอบระดับ $29,000 อีกครั้ง
สุดยอดคริปโตที่น่าจับตามองในเดือนตุลาคม
นอกจากบิทคอยน์แล้ว สินทรัพย์คริปโตอื่นๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วง “Uptober” เช่นกัน โดยในบทความเราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูเหรียญ Altcoin สองตัวที่คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นไปด้วยกัน
Bitcoin Minetrix
อุตสาหกรรมการขุดบิทคอยน์นั้นทำกำไรได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตลาดกระทิง แต่นักลงทุนรายย่อยไม่สามารถแบ่งปันกำไรเหล่านี้ได้ เนื่องจากบริษัทที่มีการติดตั้งฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงควบคุมสภาพแวดล้อมการขุดบิทคอยน์อยู่
ขณะเดียวกันเหรียญคริปโตตัวใหม่ Bitcoin Minetrix กำลังท้าทายการผูกขาดนี้ โดยนำเสนอโซลูชัน crypto cloud mining แบบกระจายอำนาจ เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อเหรียญ $BTCMTX และ Stake เหรียญ เพื่อแลกกับเครดิตการขุดที่ไม่สามารถโอนได้ ซึ่งเครดิตเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการขุด crypto cloud mining หรือรับเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลตอบแทน ซึ่งนำไปสู่รางวัลการขุด BTC เพื่อรับผลกำไร
โครงการ Bitcoin Minetrix มีคติประจำใจว่า “การขุดบิทคอยน์ที่คุณไม่จำเป็นลงมือขุดเอง” ซึ่งสะท้อนคุณสมบัติหลาย ๆ ข้อของมัน
โครงการนี้ช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเป็นเจ้าของส่วนแบ่งของกำลังขุด Bitcoin โดยไม่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคหรือต้นทุนในการขุดใด ๆ
นอกจากนี้ กลไก Stake to Mining ของ Bitcoin Minetrix ยังช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของอุตสาหกรรมการขุด Crypto cloud mining แบบดั้งเดิมอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการขุด Crypto cloud mining แบบเดิมมักกำหนดให้ลูกค้าฝากเงินสดและทำสัญญาระยะยาวและซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม Bitcoin Minetrix ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขเหล่านี้ นักลงทุนสามารถถอนการลงทุนและขายเหรียญของตนได้ตลอดเวลา
ด้วยข้อเสนอมูลค่าที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้ยอดพรีเซลของ Bitcoin Minetrix เพิ่มขึ้นสูงเกือบ 120,000 ดอลลาร์ ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อเหรียญ $BTCMTX ในราคาถูกเพียง $0.011 และ Stake เหรียญในรอบพรีเซลเพื่อรับผลตอบแทนสูงสุดได้ที่นี่
Meme Kombat
ในช่วงตลาดกระทิง เหรียญมีมมักเติบโตอย่างรวดเร็ว และเหรียญอย่าง Dogecoin และ Shiba Inu ก็กลายเป็นชื่อที่น่าจดจำในปี 2021
ขณะเดียวกันนักเทรด Jacob Bury เชื่อว่า Meme Kombat อาจเป็นเหรียญที่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าได้ 100 เท่าในตลาดเหรียญมีม
โครงการ Meme Kombat เป็นการรวมตัวกันของแนวโน้มตลาดคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ play-to-earn, gambleFi, on-chain stake และ AI
แพลตฟอร์ม Meme Kombat เป็นการต่อสู้เสมือนจริงระหว่างตัวละครเหรียญมีมยอดนิยม เช่น Doge, Shiba, Pepe, Wojak และ Sponge โดยใช้ประโยชน์จาก AI และการเรียงลำดับแบบสุ่ม ทำให้การประลองคาดเดาไม่ได้และน่าตื่นเต้น
ผู้เล่นสามารถเดิมพันการแข่งขันด้วยการเหรียญ Stake ได้ทั้งในแบบตัวต่อตัวหรือกับเกม โดยใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อรับประกันความโปร่งใสและความปลอดภัย
ความสามารถในการ Stake เหรียญ Meme Kombat จะนำเสนอผลตอบแทน APY ที่ 112% ช่วยให้นักลงทุนสร้างรายได้ในขณะที่จัดสรรเหรียญไว้เพื่อการ Stake
โครงการนี้ยังเปิดเผยตัวตนของทีมนักพัฒนาทั้งหมด รวมถึง Matt Whiteman ผู้ก่อตั้ง เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับนักลงทุน
รอบพรีเซลของ Meme Kombat ทะลุ 100,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หากใครสนใจสามารถเข้าร่วม Meme Kombat Presale ได้ที่นี่
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์