หลังจากที่ Ripple ได้รับชัยชนะในศึกระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ในข้อกล่าวหาว่าได้ขายหลักทรัพย์ ( XRP) อย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม CEO ของบริษัทอย่าง Brad Garlingouse กล่าวว่า ชัยชนะในครั้งนี้ไม่เพียงพอ
โดย Garlingouse ได้กล่าวในระหว่างการประชุม DC Fintech Week เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนว่าชัยชนะในครั้งนี้ไม่ได้ช่วงอะไรมากนักสำหรับการโน้มน้าวธนาคารบางแห่งในสหรัฐฯ ให้เข้ามาในอุตสาหกรรมนี้
“แม้ว่าเราจะชนะคดี แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นศัตรูกับตลาดคริปโตอยู่ รวมถึง OCC [Options Clearing Corporation] ก็ไม่เป็นมิตรต่อคริปโตเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ธนาคารในสหรัฐฯ ก็คงไม่มีแนวโน้มที่จะเข้ามาในตลาดนี้”
ตัวเขายังได้เสริมอีกว่า ทัศนคติของ SEC โดยเฉพาะกับประธานอย่าง Gary Gensler ที่ต้องการเป็นปฏิปักษ์ต่อคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเปิดเผยนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดคริปโตในประเทศถูกยับยั้งไว้ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีการเติบโตอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ตัวเขาได้เสริมว่า การกีดกันในสหรัฐฯ นั้นส่งผลให้พนักงานในบริษัทของเขาอยู่นอกสหรัฐอเมริกากว่า 80%
อย่างไรก็ตามเราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การกระทำของ SEC นั้นโหดร้ายต่อบริษัทที่ดำเนินการอยู่ในประเทศจริงๆ
ยกตัวอย่างเช่นการต่อสู้คดีของ Ripple ที่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก โดย Garlinghouse ได้ออกมาเปิดเผยว่า Ripple ได้เสียเงินไปมากกว่า100 ล้านดอลลาร์ในการต่อสู้กับหน่วยงาน ในขณะที่อีกฝ่ายมีงบไม่จำกัด
ที่มา: Finbold