<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

How to: หาเพรชในตม ? วิธีสังเกตเหรียญมีมก่อนกลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดีย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหรียญมีม เช่น Shiba Inu (SHIB) หรือ Pepe (PEPE) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีสำหรับนักลงทุนสายเก็งกำไร แต่ในความเป็นจริงแล้วโลกของเหรียญมีมมักเต็มไปด้วยการ rug pull และมิจฉาชีพที่พร้อมจะโกงนักลงทุนอยู่ตลอดเวลา จนส่งผลให้มีเหรียญมีมเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดในตลาดได้

วิธีสังเกตว่าเหรียญมีมตัวไหนจะโด่งดังจนราคาพุ่งแรงนั้นถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คริปโตรายหนึ่งได้ค้นพบวิธีการค้นหา “เพชร” ในกองเหรียญมีมอย่างคร่าว ๆ ก่อนที่เหรียญตัวนั้นจะกลายเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ดังนั้นในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงจะพาทุกคนมาสำรวจไปพร้อมกันว่าวิธีการดังกล่าวมีขั้นตอนอย่างไร

Dexscreener: เครื่องมือค้นหาเหรียญมีมตัวปังก่อนราคาพุ่งแรง

นักวิเคราะห์คริปโตและผู้เชี่ยวชาญที่รู้จักกันในชื่อ BlackbeardXBT ได้ออกมาให้ความรู้แก่ผู้ติดตามกว่า 123,000 คนบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) เกี่ยวกับวิธีการสังเกตว่าเหรียญมีมตัวไหนจะกลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล

นักวิเคราะห์อธิบายว่าเขาใช้แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ราคา DEX Screener โดยอธิบายว่าแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ของโปรเจกต์ใหม่และเก่า เช่น ราคา ข้อมูลสัญญา ฯลฯ ซึ่งขั้นตอนการใช้งานอย่างง่าย ๆ จะมีดังนี้

1. เลือกเชน

ในขั้นตอนแรก BlackbeardXBT กล่าวว่าผู้ใช้สามารถเลือกเชนใดก็ได้ที่เราต้องการซื้อเหรียญ อาจเป็น  Ethereum, BSC, Arbitrum หรือเครือข่ายอื่น ๆ โดยทางด้านซ้ายมือ จะเห็นว่ามีฟังก์ชันง่าย ๆ และเชนต่าง ๆ ให้เลือก ส่วนด้านบนจะเป็นส่วนตัวกรองต่าง ๆ

2. กรอง New Pairs ตามคุณสมบัติที่ต้องการ

ในแท็บ “New Pairs” จะสังเกตเห็นคู่เหรียญใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัว และกำลังได้รับความนิยมในตอนนี้ แต่แน่นอนว่าอะไรก็ตามในโลกคริปโตมักไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น โดยเราจำเป็นต้องทำการกรองเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์แนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงเหรียญที่กำลังมาแรง เนื่องจากราคาสามารถร่วงแรงได้ง่าย โดยเขาแนะนำว่าสิ่งที่ต้องทำคือคลิกที่แท็บ “ตัวกรอง” เพื่อกรองเหรียญตามคุณสมบัติที่ต้องการ เช่น ปริมาณสภาพคล่องที่มีอยู่เมื่อมีการปล่อยเหรียญ หรือ วอลุ่มซื้อขายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เป็นต้น

ตามโพสต์ของเขา นักวิเคราะห์ให้แนะนำรายละเอียดต่าง ๆ ที่ควรสังเกต ดังต่อไปนี้

  • สภาพคล่อง (Liquidity) – คือ จำนวนเงินสภาพคล่องของคู่เหรียญ จำนวนนักพัฒนาที่ล็อกเหรียญสภาพคล่องบางส่วนในช่วงเริ่มต้น จากนั้นผู้ให้บริการสภาพคล่องก็มักจะเติมเงินเข้ามาเพิ่ม
  • FDV – การประเมินมูลค่ามูลค่าตลาดในอนาคตโดยประมาณของคริปโตเคอเรนซี โดยพื้นฐานแล้วคือ mcap ของโปรเจกต์
  • อายุคู่เหรียญ (Pair age) – คืออายุของโปรเจกต์ เช่น เปิดตัวเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว 6 ชั่วโมง หรือ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
  • การซื้อและขายตลอด 24 ชั่วโมง (24h buy and sells) – นักวิเคราะห์เน้นย้ำว่าการตั้งค่าในส่วนนี้สำคัญมาก ถ้าหากเราไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวง

หลังจากตั้งค่าตัวกรองแล้ว จะเห็นว่าเหรียญส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ประมาณ 80%+ อาจจะเป็นเหรียญมีม โดยถ้าหากเราโฟกัสไปที่กรณีการใช้งานของเหรียญ ก็ให้ค้นหารายการ utility projects หรือในอีกทางหนึ่ง ก็อาจลองสังเกตดูว่ามีเหรียญไหนบ้างที่กำลังเกาะกระแสบนโลกโซเชียล เช่น Elon Musk ทวีตเกี่ยวกับการเปิดตัว AI ของเขา แล้วจากนั้นเหรียญ Grok (GROK) ก็มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 150 ล้านดอลลาร์

3. หาข้อมูลเหรียญที่สนใจ

นักลงทุนมีอิสระที่จะเลือกเหรียญประเภทใดก็ได้ตามต้องการลงทุน แต่เมื่อเลือกโปรเจกต์แล้ว ก็จำเป็นจะต้องมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ได้ให้เคล็ดลับในการหาข้อมูลของเหรียญไว้ดังนี้

  • เข้าเว็บไซต์ของโปรเจกต์
  • ตรวจสอบทีมงานและชุมชน
  • อ่านเอกสาร white paper ของโปรเจกต์ (ถ้ามี)
  • ตรวจสอบโซเชียลมีเดียของโปรเจกต์
  • ตรวจสอบกราฟราคา

การทำตามขั้นตอนเหล่านี้อาจสามารถเพิ่มโอกาสในการค้นหาเหรียญมีมติดกระแสตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ราคาจะพุ่งแรง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามิจฉาชีพในโลกคริปโตสามารถสร้างโปรเจกต์ scam ที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงแม้เราจะตรวจสอบจนรอบด้านแล้ว นักลงทุนก็ไม่ควรลงทุนเกินกว่าจำนวนเงินที่เราสามารถสูญเสียได้ โดยเฉพาะเหรียญน้องใหม่ที่ยังไม่ได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเอง

ที่มา: bitcoinist