<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Jim Chanos นัก Short sell ในตำนานเตรียมปิดกองทุน Hedge Fund หลังขาดทุนจากการเปิด Short บริษัท Tesla

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักเปิด Short ในตำนานกล่าวว่าเขากำลังจะถอนตัวออกจากตลาดหลังจากเปิดกองทุนมามากกว่า 30 ปี

นาย Jim Chanos หนึ่งในนัก Short sell ในตำนานได้ประกาศว่าเขาจะปิดกองทุน Hedge Fund ที่เน้นการเปิด Short หลังจากเปิดกองทุนมา 38 ปี

นาย Chanos กลายเป็นที่พูดถึงอย่างล้มหลาม หลังจากเขาทำการ Short sell บริษัท Enron อดีตบริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ของโลกที่ล้มละลายไปในปี 2001 จนทำกำไรไปกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ Short Sell บริษัท Tesla บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ซึ่งเขาคิดว่ามันกำลังเป็นฟองสบู่ แต่ก็ไม่สำเร็จ

เขาระบุว่าเขายังคงสนใจในการศึกษาการลงทุนเหมือนเช่นเคย แต่เขาต้องการที่จะมองในมุมที่ต่างออกไป

นาย Chanos กล่าวว่าเงินทุนจำนวนมากจะถูกส่งกลับไปยังนักลงทุนภายในสิ้นปีนี้ โดยเขาจะยังคงออกมาให้คำแนะนำแนวคิดพื้นฐานสั้น ๆ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกในระดับมหาภาคบางส่วน

ก่อนหน้านี้ เขาได้เปิด Short หุ้นบริษัท Teslsa และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่บางแห่ง และในปี 2020 เขาก็บอกว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ใน “ยุคทองของการโกง” โดยเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ เขาได้เปิด Short มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ในบริษัท Wirecard เป็นบริษัทชำระเงินของเยอรมนี ซึ่งถูกฟ้องล้มละลายหลังจากออกมายอมรับว่าเงินสดส่วนใหญ่ของบริษัทไม่มีอยู่จริง

นาย Chanos ได้ก่อตั้งกองทุน Kynikos Associates ในปี 1985 โดยเป็นคำภาษากรีกที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับการดูถูกเหยียดหยาม

การเดิมพันที่สุดโต่งที่โด่งดังที่สุดของเขาคือ การเปิด Short บริษัท Enron หลังจากบริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับการเปิดข้อเผยข้อมูลการจัดหาเงินทุนนอกงบดุล ซึ่งทำให้เกิดการสอบสวนด้านกฎระเบียบ และท้ายที่สุดก็ล้มละลายลงท่ามกลางการฉ้อโกงซึ่งส่งผลให้ผู้บริหารหลายคนถูกจำคุก

ก่อนวิกฤตในปี 2008 นาย Chanos ยังได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของวิกฤตสินเชื่อด้วย

ปีที่แล้ว เขาได้ปิด Data Center ของเขาลงแม้ว่าจะได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุน รวมถึงบริษัทเอกชนชื่อดัง ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการใช้เพิ่มสูงขึ้น

นาย Chanos ระบุว่า Datar center ของเขากำลังเป็นที่ต้องการน้อยลง เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ของเขาอย่าง Microsoft, Amazon และ Google มีแนวโน้มที่จะสร้าง Data Center ของตนเองในอนาคต ซึ่งจะทำให้ความต้องการที่มีอยู่ลดลง
Source: Finance Times